Monday, April 28, 2008

การเก็บรังนกแอ่นบ้าน (Harvesting of Bird Nest)

อุปกรณ์สำหรับเก็บรังนกแอ่นบ้าน:

นกแอ่นเป็นนกที่เกิดมามีคุณค่ามีราคาตามพันธุศาสตร์ มีความรู้สึกไวต่อการคุกคาม และสิ่งรบกวนทั้งหลาย ดังนั้นการเก็บรังนกแอ่นจึงควรรู้ว่าเมื่อไรจึงควรเก็บและเก็บอย่างไร

นกแอ่นผสมพันธุ์และวางไข่ทุกๆ 4 เดือนโดยเฉลี่ย ดังนั้นการผลิตรังนกแอ่นจึงต้องรอเวลาไม่ได้เร็วอย่างที่เราคิด ช่วงระยะเวลาของการผสมพันธุ์และเลี้ยงลูกใช้เวลานาน รังนกแอ่นจึงมีราคาสูง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการผสมพันธุ์คือช่วงฤดูฝน นกแอ่นจะออกหาอาหารไม่ไกลจากรัง อาหารจะสมบูรณ์กว่าช่วงฤดูแล้ง บ้านนกแอ่นที่ปกติเคยเก็บรังนกแอ่นได้เดือนละ 3 กิโลกรัม อาจเก็บรังนกแอ่นได้ 4 กิโลกรัม ในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่านกแอ่น 1 คู่ ทำรัง 2 รัง แต่เป็นเพราะว่าบ้านนกแอ่นได้คู่นกแอ่นใหม่ที่กำลังหาที่ทำรังจากบ้านนกแอ่นอื่นๆหรือจากถ้ำนกแอ่นที่พื้นที่ทำรังไม่มีให้ทำรังแล้ว ช่วงฤดูฝนบ้านนกแอ่นใหม่ๆจะได้นกแอ่นเพิ่มขึ้น

นกแอ่นจะทำรังในช่วงเวลากลางคืน รังนกแอ่นจะทำจากน้ำลายของนกแอ่น ที่มีส่วนผสมที่ซับซ้อนของ Glycol-Protien น้ำลายของนกแอ่นจะเหนียวและสามารถแห้งได้เร็วเมื่อสัมผัสอากาศ นกแอ่นใช้เวลา 30-40 วัน ในการทำรัง คู่นกแอ่นที่มีประสบการณ์จะทำรังเป็นรูปถ้วยครึ่งซีกสวยงาม แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของไข่ ลูกนกแอ่นที่จะโต และพ่อแม่นกแอ่น

หลังจากคู่นกแอ่นทำรังเสร็จ อีกประมาณ 1 อาทิตย์หรือกว่านั้น แม่นกแอ่นจะเริ่มวางไข่ฟองแรก และอีก 2-3 วัน จะวางไข่ฟองที่ 2 จากนั้นจะกกไข่ ใช้เวลาประมาณ 26-28 วัน เมื่อลูกนกแอ่นออกจากไข่ พ่อแม่นกแอ่นจะช่วยกันป้อนอาหารให้ลูกนกแอ่นวันละ 2 เวลา ใช้เวลา 49-52 วัน จนลูกนกแอ่นโตและบินได้ ลูกนกแอ่นจะหัดบินอยู่ภายในบ้านนกแอ่นประมาณ 5-7 วัน จากนั้นจะบินออกจากบ้านนกแอ่นออกหาอาหารร่วมกับฝูงนกแอ่น

ลูกนกแอ่นที่อายุครบ 8 เดือน จะเริ่มจับคู่และเริ่มทำรัง บ้านนกแอ่นใหม่อยากได้ลูกนกแอ่นคู่ใหม่เช่นนี้มากๆ จึงนิยมเก็บรังนกแอ่นเมื่อลูกนกแอ่นบินได้ และบินออกจากรังไปหาอาหารร่วมกับฝูงนกแอ่น

รังนกแอ่นที่ลูกนกแอ่นโตและบินออกจากรังได้แล้ว ถ้ายังไม่เก็บรัง เมื่อถึงเวลาผสมพันธุ์ นกแอ่นคู่เดิมจะใช้รังเดิมซ้ำอีกครั้ง โดยซ่อมรังเดิมให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น ดังนั้นการเก็บรังนกแอ่นที่ลูกนกแอ่นโตและบินออกจากรังแล้ว เป็นวิธีการที่ดีที่สุด อย่าให้เกิดการใช้รังเดิมซ้ำอีก ท่านเป็นเจ้าของบ้านนกแอ่นต้องเรียนรู้ว่าช่วงเวลาใดควรเก็บรังนกแอ่น การเข้าบ้านนกแอ่นบ่อยๆในช่วงฤดูผสมพันธุ์ทำให้นกแอ่นรู้สึกถูกรบกวน ไม่เข้าก็ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดต่างๆได้ ควรเข้าแต่ให้น้อยครั้งที่สุด ใช้การคำนวณนับวันเวลาช่วย ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป

ถ้าหากท่านเก็บรังนกแอ่นช้า และคู่นกแอ่นเดิมกำลังจะวางไข่ในรังเดิม แต่รังเพิ่งถูกเก็บไปก่อนหน้าเพียง 1 วัน ท่านคิดว่านกแอ่นคู่เดิมจะรอได้ไหม? คำตอบคือ ไม่รอ! นกแอ่นคู่เดิมจะไม่รอถ้ารังถูกเก็บ แต่จะเริ่มทำรังใหม่ตรงที่เดิมโดยไม่หยุดพัก ใช้เวลาเกือบ 24 ชั่วโมง รังนกแอ่นที่รีบทำจะไม่สวย รังจะบางไม่แข็งแรงมากนัก ทำรังใหม่เพียงเพื่อให้สามารถวางไข่ได้เท่านั้น และหลังจากวางไข่แล้ว จะทำรังต่อและเสริมให้รังแข็งแรง ใหญ่ขึ้น

วิธีเก็บรังนกแอ่นทำอย่างไร?

การเก็บรังนกแอ่นบ้านจะใช้เครื่องมือเพียงชนิดเดียว คือ "เหล็กแซะ" ชนิดที่ช่างทาสีใช้แซะรอยสีเก่าที่ร่อนให้หลุดออกมาจากผนัง หรือแบบที่แม่ค้าขนมโตเกียวใช้ก็ได้ เลือกชนิดที่ปลอดสนิม มีด้ามจับถนัด ฝนให้คมขึ้นหน่อย เพื่อเวลาแซะรังนกแอ่นจะได้ไม่แตก การแซะรังนกแอ่น ให้กดเหล็กแซะแนบกับพื้นไม้ที่รังนกแอ่นเกาะอยู่ ออกแรงนิดเดียว ความคมของเหล็กแซะจะทำให้รังนกแอ่นหลุดออกมาอย่างสมบูรณ์

สิ่งสำคัญที่ควรจดจำไว้และต้องระมัดระวังคือ ก่อนเก็บรังนกแอ่น ให้ตรวจสอบดูอีกทีว่าในรังนกแอ่นมีไข่หรือลูกนกแอ่นที่เพิ่งออกจากไข่หลงเหลืออยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งอาจจะมีคู่นกแอ่นบางคู่ที่อาจจะทำรังและผสมพันธุ์ช้ากว่าคู่อื่นๆก็มี การดูอาจจะลำบากเพราะไข่หรือลูกนกแอ่นตัวแดงๆจะยังเล็กมาก ให้ใช้กระจกแผ่นเล็กๆสอดเข้าไปเพื่อส่องดู ถ้าไม่มีไข่หรือลูกนกแอ่นก็เก็บได้ ถ้ามีไข่หรือลูกนกแอ่นก็ไม่ต้องเก็บ การเข้าบ้านนกแอ่นเพื่อเก็บรังนกแอ่นควรใช้ไฟฉายชนิดที่คาดบนศีรษะได้ เพราะมือสองข้างจะทำงานได้สะดวก

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

No comments:

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
ยะลา หรือ ยะลอ แปลว่า "แห" เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองตอนใต้ ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี ต่อมาได้ประกาศเป็นจังหวัด ตามระเบียบบริหารการปกครองใหม่เมื่อปี 2476 ปัจจุบันจังหวัดยะลามีพื้นที่ 4,521.077 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 376 หมู่บ้าน มีอำเภอเมือง อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศไทย ดั่งคำขวัญที่ว่า "ยะลา : ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน" อยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตร หรือโดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 1,440 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หลักเมืองยะลา

หลักเมืองยะลา
หลักเมืองยะลาสร้างขึ้นจากแนวความคิดของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมกับบรรดาข้าราชการซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมจังหวัดยะลาเป็นอาณาเขตหนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพิ่งแยกออกเป็นเมืองหนึ่งต่างหากในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2335) ที่ตั้งตัวเมืองยะลาเดิมมิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน แต่ได้โยกย้ายมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงให้ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 เวลา 10.30 น. ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางของเมืองยะลา ทั้งนี้เนื่องจากผังเมืองยะลาได้ออกแบบไว้เหมาะเจาะกันพอดีรอบๆวงเวียนหลักเมือง อันเป็นวงเวียนชั้นในสุดเป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองกำกับการตำรวจภูธร สำนักงานที่ดิน สำนักงานเกษตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่างๆของจังหวัดจะมารวมกันที่หลักเมือง

วัดคูหาภิมุข

วัดคูหาภิมุข
ถ้ำคูหาภิมุขตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง ไปตามเส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าวัดอีก 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ สร้างสมัยศรีวิชัยประมาณ 1,300 ปีเศษ ภายในมีถ้ำต่างๆเช่น ถ้ำมืด ถ้ำ ภปร. มีหินงอกหินย้อย และหยดน้ำไหลรินจากโขดหินสวยงามยิ่งนัก หยดเกร็ดเพชรระยิบระยับตา ซึ่งในปี 2539 ถ้ำคูหาภิมุขได้รับรางวัลการประกวดแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พระมหากัจจายนะ

พระมหากัจจายนะ
พระมหากัจจายนะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเมืองยะลา อยู่กลางแจ้งภายในวัด องค์ใหญ่สวยงาม หากหมั่นทำความดีเมื่อมาขอพรจากท่านมักจะประสบความสำเร็จ อยู่ห่างจากศาลากลางไปทางถนนสุขยางค์ทางออกมุ่งสู่อำเภอเบตงประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโรงเรียนตำรวจภูธร 9 (กองบัญชาการส่วนหน้า)

วัดพุทธาธิวาส

วัดพุทธาธิวาส
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ ณ วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขามีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ มหาเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฏีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เขื่อนบางลาง

เขื่อนบางลาง
เขื่อนบางลางในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองยะลาสู่อำเภอเบตง บนเส้นทางหลวงสายยะลา-เบตง สามารถแวะชมทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนบางลางได้ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา 58 กิโลเมตร และเข้าไปในตัวเขื่อนอีกประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเขื่อนบางลางสร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ทิวเขาสันกาลาคีรี สันปันน้ำระหว่างไทยกับมาเลเซียในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ด้วยฝีไม้ลายมือมนุษย์ทำให้พื้นที่บริเวณเหนือเขื่อน กลายสภาพเป็นทะเลสาปน้ำจืดกลางหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีจากพันธุ์พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดและภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวเรียงรายสลับซับซ้อนโอบล้อมอยู่ ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ มีอาคารบ้านพักตากอากาศ ห้องจัดประชุม ร้านอาหาร สนามเทนนิส สนามเปตอง สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล แพล่องชมทัศนียภาพ ไว้บริการให้ความสะดวกแก่ผู้มาเยือน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะเหมาะต่อการท่องเที่ยวแล้วเขื่อนบางลางยังคงคุณสมบัติของเขื่อนเอนกประสงค์ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกในภาคใต้ไว้ได้เช่นเดิมคือ ช่วยในการป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้าและการประมง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม,ติดต่อบ้านพักโทรฯ 0-7329-9237-8, 0-7329-7099 ล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาปเหนือเขื่อน โทรฯ 0-7328-1063-66 ต่อ 2291)

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
ยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินตามรอยพระบาทชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีอาหารการกินที่หลากหลายทั้ง ไทย จีน มุสลิม ผู้คนรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดเป็นเพียงภาพลวงตา อีกไม่นานก็จะหายไป เพราะเขาเองก็เบื่อเต็มทนแล้วเพราะตั้งแต่วันแรกที่หลงผิดชีวิตยังหาความสุขไม่ได้ จะขอกลับมาเป็นคนดีของสังคมเร็วๆนี้

อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ

อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์