Tuesday, March 24, 2009

Swiftlet Lover Blog ครบ 1 ขวบ

เวลาและวารีไม่คอยใคร เผลอนิดเดียว Swiftlet Lover Blog ครบ 1 ขวบ ผมเริ่มเขียนบทความนำเสนอใน Blog Site แห่งนี้เมื่อ 23 มีนาคม 2551 มาถึงวันนี้ 24 มีนาคม 2552 เลยวันครบรอบไป 1 วัน เวลา 1 ปี ช่างผ่านไปเร็ว วันนี้จึงขอฉลองวันครบรอบ 1 ปี ให้กับ Swiftlet Lover Blog ย้อนหลัง 1 วัน Happy 1st Birthday ขอให้ Swiftlet Lover Blog เป็นที่รักของท่านผู้อ่านตลอดไป

บทความที่นำเสนอทั้งหมด 114 บทความ มีนอกเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องบ้านนกแอ่นบ้างเล็กน้อย แต่เป็นข้อคิดเห็นที่ดีคงไม่ว่ากัน เรื่องบ้านนกแอ่นก็นำเสนอไปพอสมควรแต่ยังไม่ครบสมบูรณ์ทุกเรื่อง จะพยายามนำเสนอไปเรื่อยๆเท่าที่มีเวลาว่างและมีสมาธิเพียงพอ ยังมีความสุขและสนุกกับการนำเสนอบทความแก่ท่านผู้อ่านอย่างเปี่ยมล้น

เวลา 1 ปี ที่ผ่านไป ผมได้อะไรที่มีค่ามากมาย ผมได้รู้จักท่านผู้อ่านหลายๆท่าน ได้รู้จักแม้ไม่เคยเห็นหน้า ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ บางท่านได้คุยกันหลายครั้ง บางท่านครั้งเดียว บางท่านไม่กล้าโทรศัพท์ไปคุย เกรงใจกลัวผมไม่มีเวลาว่างให้ ผมขอถือโอกาสเสนอไว้ตรงนี้เลย โปรดอย่าได้เกรงใจ ถ้าผมติดธุระอยู่ผมจะรีบบอกให้ท่านโทรฯกลับไปใหม่ ผมถือเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้จักท่าน ยินดีพูดคุยกับทุกท่านด้วยความเต็มใจ มีหลายท่านไปเยี่ยมชมบ้านนกแอ่นของผมที่ยะลา ไปแลกเปลี่ยนพูดคุยถึงยะลา ผมยินดีต้อนรับด้วยความเต็มใจเสมอ

ครบรอบ 1 ปี ที่ผ่านไป มีผู้อ่านที่เป็นคนไทยประมาณ 12,000 คน จำนวนครั้งที่เข้าเยี่ยมประมาณ 25,000 ครั้ง ก็นับว่าดีกว่าที่คิดไว้มาก กะว่าสัก 2,000 คน ก็พอใจแล้ว ได้เกินเป้าไปประมาณ 10,000 คน ถือว่าเกินความคาดหมายไปมาก ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่าน

บ้านนกแอ่นยังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ความเสี่ยงยังมีอยู่เป็นธรรมชาติของทุกธุรกิจ ท่านจึงต้องเล่นในสนามที่ท่านชำนาญสูงสุด เล่นในเกมส์ที่ท่านมีความถนัดสูงสุดมีโอกาสชนะมากที่สุด ถ้าท่านยังไม่พร้อมในทุกๆด้าน บทความใน Swiftlet Lover Blog จะค่อยๆช่วยเติมเต็มให้ท่าน ให้ท่านค่อยๆชำนาญสนาม ให้ท่านค่อยๆถนัดในเกมส์ หลังจากนั้นจึงค่อยตัดสินใจ คิดให้หลายๆครั้งก่อนตัดสินใจ เพราะทุกสนามทุกเกมส์ มีทั้งแพ้และชนะเท่าๆกัน

อีกครั้งกับคำว่า Happy 1st Birthday Swiftlet Lover Blog, Happy Birthday.

ฉลองครบรอบ 1 ปี โดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Thursday, March 19, 2009

กฎพื้นฐานของบ้านนกแอ่น

มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์มีแหล่งพืชไร่ที่อุดมสมบูรณ์มีสภาพอากาศที่ปราศจากมลพิษมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่ชุ่มน้ำกระจายอยู่ทั่วไปอย่างสมบูรณ์ การทำบ้านนกแอ่นนั้นกฎพื้นฐานที่สำคัญคือการเลือกพื้นที่ที่จะลงทุนทำบ้านนกแอ่น นับเป็นโชคดีของประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ล้วนมีโอกาสสูงที่จะทำบ้านนกแอ่นได้ แต่การที่จะประสพความสำเร็จได้นั้นต้องมีองค์ประกอบหลักที่สำคัญที่ต้องนำมาพิจารณา คือ:-

1. แหล่งรวมใหญ่ที่อยู่ของพืชและสัตว์ (Microhabitat) หมายถึง ก่อนที่ท่านจะลงทุนทำบ้านนกแอ่นในพื้นที่ใด พื้นที่นั้นต้องเป็นพื้นที่ที่มีนกแอ่นอาศัยอยู่ (Swiftlet Area) สภาพแวดล้อมที่พึงประสงค์ต้องประกอบด้วย:-

- 50% ของพื้นที่เป็นพืชไร่ที่มีลำต้นต่ำกว่า 1 เมตร เช่น นาข้าว ทุ่งหญ้า สุมทุมพุ่มไม้
- 30% ของพื้นที่เป็นต้นไม้ใหญ่ลำต้นสูงกว่า 5 เมตร เช่น สวนปาล์ม ป่าไม้
- 20% ของพื้นที่เป็นแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำ ทะเล อ่างเก็บน้ำ หนอง บึง ป่าชายเลน

นกแอ่นจะใช้เวลา 12 ชั่วโมง บินโดยไม่หยุดพักเพื่อหาอาหาร (จับแมลงในอากาศ) ช่วงแรกของวันตั้งแต่เวลา 6.00 น. - 10.00 น. จะหากินในแหล่งของพืชไร่ เช่น นาข้าว ทุ่งหญ้า สุมทุมพุ่มไม้ จากนั้นตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 13.00 น. จะหากินในแหล่งของต้นไม้ใหญ่ เช่น สวนปาล์ม ป่าไม้ ช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 13.00 น. - 15.00 น. จะอยู่ใกล้แหล่งน้ำเพื่อกินน้ำและโฉบเล่นน้ำ และจะกลับสู่แหล่งพืชไร่อีกครั้งตั้งแต่เวลา 15.00 น. - 18.00 น.

คู่นกแอ่นที่มีลูกจะหากินใกล้ๆบ้านนกแอ่น จะกลับบ้านนกแอ่นหลายครั้งเพื่อป้อนอาหารให้ลูกนกแอ่น ท่านจึงสังเกตุเห็นนกแอ่นบินอยู่รอบๆบ้านนกแอ่นในตอนกลางวันบ่อยๆ

หลีกเลี่ยงการทำบ้านนกแอ่นในพื้นที่ที่มีมลภาวะสูง เช่น ใกล้โรงงานที่มีปล่องควัน ฝุ่นละออง

2. แหล่งที่อยู่อาศัยของนกแอ่น (Microhabitat) หมายถึงบ้านนกแอ่นที่ท่านทำให้นกแอ่นอยู่อาศัย อันนี้มนุษย์เราเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมากที่สุด ท่านต้องจัดหา เตรียมการ ดำเนินการให้ได้บ้านนกแอ่นตรงตามเงื่อนไขที่นกแอ่นชื่นชอบทุกประการ เพื่อดึงดูดนกแอ่นให้เข้าอยู่อาศัยในเวลาอันรวดเร็ว ให้ได้ผลผลิตรังนกแอ่นในเวลาที่สั้นและได้รังนกแอ่นจำนวนมาก สภาพแวดล้อมภายในบ้านนกแอ่นที่พึงประสงค์ต้องประกอบด้วย:-

- เส้นทางบินที่เหมาะสม (Right Flying Path) ที่ทำให้นกแอ่นสามารถบินเข้า-บินออกบ้านนกแอ่นของท่านได้อย่างง่ายดาย ทั้งที้หมายถึงตำแหน่งของช่องทางเข้า-ออก (Entrance Hole) ต้องเหมาะสม
- อุณหภูมิที่เหมาะสม นกแอ่นชื่นชอบ 27 - 29 องศา C
- ความชื้นที่เหมาะสม นกแอ่นชื่นชอบ 80 - 95 %
- ความมืดที่เหมาะสม นกแอ่นชื่นชอบ 2 - 6 Lux
- ปลอดภัยจากศัตรูรบกวนทั้งมวล
- ไม่มีลมแรงพัดเข้าสู่ภายในบ้านนกแอ่น
- ลอกเลียนแบบให้เหมือนถ้ำที่นกแอ่นเคยอยู่ตามธรรมชาติ
- เสียงเรียกนกแอ่นมีความสำคัญมากในการดึงดูดนกแอ่น

จะเห็นว่าเมื่อนำองค์ประกอบทั้ง 2 อย่าง Macrohabitat และ Microhabitat มาพิจารณาอย่างดีแล้ว สามารถเลือกทำเลได้ถูกต้อง สร้างบ้านนกแอ่นได้ตรงตามเงื่อนไขที่นกแอ่นชื่นชอบ อัตราความสำเร็จของบ้านนกแอ่นของท่านมีสูงมาก

การเลือกทำเลที่ตั้งบ้านนกแอ่นมีผลต่อความสำเร็จเป็นอย่างมาก นกแอ่นออกหากินในรัศมีประมาณ 25 ตารางกิโลเมตร บ้านนกแอ่นที่ตั้งอยู่ในรัศมี 25 ตารางกิโลเมตรจากแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์จึงมีโอกาสสำเร็จได้รวดเร็ว ได้รังนกแอ่นจำนวนมาก ท่านจึงเห็นข้อเปรียบเทียบว่าทำไมบางพื้นที่จึงสำเร็จได้รวดเร็ว บางพื้นที่จึงสำเร็จได้ช้า ดังนั้นท่านจึงต้องนำเหตุผลอันนี้มาประกอบว่าทำไมบ้านนกแอ่นของท่านจึงได้รับผลระดับนี้ เร็ว ช้า สำเร็จ ล้มเหลว จะไปโทษอย่างอื่นไม่ได้ ต้องโทษที่ไม่ได้นำ 2 องค์ประกอบนี้มาร่วมพิจารณา

มีข้อมูลใหม่สำหรับทุกท่าน พื้นที่ภาคอีสานมีบ้านนกแอ่นแล้ว ที่จังหวัดอุดรธานี อัตราความสำเร็จกำลังติดตาม เมื่อนำองค์ประกอบ 2 ส่วนนี้มาพิจารณาจึงนับว่าน่าสนใจมาก เคยคิดว่าพื้นที่ภาคอีสานไม่น่าจะมีนกแอ่น แต่ก็มีแล้ว จังหวัดอื่นๆจึงน่าสนใจศึกษาเช่นกัน

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Wednesday, March 4, 2009

บทความดีๆของพระมหาวุฒิชัย ว. วชิรเมธี

บทความบทนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากบ้านนกแอ่นมานำเสนอข้อชวนคิดดีๆ ของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) เพื่ออ่านแล้วท่านจะได้มีแรงคิดสู้ต่อไปอย่างไม่ท้อถอย จะมองเห็นทุกอย่างที่เป็นจริง ไม่หลอกลวง

ชวนคิด ชวนคิด => แก้วที่คว่ำอยู่กลางสายฝน ต่อให้ฝนตกกระหน่ำทั้งคืน ก็ไม่อาจเต็มไปด้วยน้ำ คนที่ไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้ ต่อให้คลุกคลีอยู่กับนักปราชญ์ทั้งคืนทั้งวัน ก็ยังโง่เท่าเดิม

นัยอันล้ำลึกของคำว่า "ขอบคุณ"

ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้วิธีลุกขึ้นสู้
ขอบคุณความยากจน ที่ทำให้เป็นคนมุมานะ
ขอบคุณความล้มเหลว ที่ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ

ขอบคุณความผิดพลาด ที่ทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม
ขอบคุณความริษยา ที่ทำให้กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ขอบคุณคำวิพากษ์วิจารณ์ ที่ทำให้ผลิบานอย่างไร้ข้อตำหนิ

ขอบคุณความไม่รู้ ที่ทำให้รู้จักครูที่ชื่อประสบการณ์
ขอบคุณความผิดหวัง ที่ทำให้ตั้งสติเพื่อลุกขึ้นมาใหม่
ขอบคุณศัตรูที่แกร่งกล้า ที่ทำให้รู้ว่าเรายังไม่ใช่มืออาชีพ

ขอบคุณมหกรรมคอรัปชั่น ที่ทำให้เราอยากสร้างสรรค์การเมืองใหม่
ขอบคุณความป่วยไข้ ที่ทำให้เราตั้งใจดูแลสุขภาพ
ขอบคุณความทุกข์ ที่ทำให้เรารู้ว่าความสุขมีค่าแค่ไหน

ขอบคุณความพลัดพราก ที่ทำให้เราสละจากความยึดมั่น ถือมั่น
ขอบคุณเพลิงกิเลส ที่ทำให้เรามีเหตุอยากถึงพระนิพพาน
ขอบคุณความตาย ที่ทำให้ฉากสุดท้ายของชีวิตสมบูรณ์แบบ

เจริญพร

โดยท่านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี)

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
ยะลา หรือ ยะลอ แปลว่า "แห" เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองตอนใต้ ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี ต่อมาได้ประกาศเป็นจังหวัด ตามระเบียบบริหารการปกครองใหม่เมื่อปี 2476 ปัจจุบันจังหวัดยะลามีพื้นที่ 4,521.077 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 376 หมู่บ้าน มีอำเภอเมือง อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศไทย ดั่งคำขวัญที่ว่า "ยะลา : ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน" อยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตร หรือโดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 1,440 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หลักเมืองยะลา

หลักเมืองยะลา
หลักเมืองยะลาสร้างขึ้นจากแนวความคิดของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมกับบรรดาข้าราชการซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมจังหวัดยะลาเป็นอาณาเขตหนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพิ่งแยกออกเป็นเมืองหนึ่งต่างหากในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2335) ที่ตั้งตัวเมืองยะลาเดิมมิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน แต่ได้โยกย้ายมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงให้ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 เวลา 10.30 น. ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางของเมืองยะลา ทั้งนี้เนื่องจากผังเมืองยะลาได้ออกแบบไว้เหมาะเจาะกันพอดีรอบๆวงเวียนหลักเมือง อันเป็นวงเวียนชั้นในสุดเป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองกำกับการตำรวจภูธร สำนักงานที่ดิน สำนักงานเกษตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่างๆของจังหวัดจะมารวมกันที่หลักเมือง

วัดคูหาภิมุข

วัดคูหาภิมุข
ถ้ำคูหาภิมุขตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง ไปตามเส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าวัดอีก 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ สร้างสมัยศรีวิชัยประมาณ 1,300 ปีเศษ ภายในมีถ้ำต่างๆเช่น ถ้ำมืด ถ้ำ ภปร. มีหินงอกหินย้อย และหยดน้ำไหลรินจากโขดหินสวยงามยิ่งนัก หยดเกร็ดเพชรระยิบระยับตา ซึ่งในปี 2539 ถ้ำคูหาภิมุขได้รับรางวัลการประกวดแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พระมหากัจจายนะ

พระมหากัจจายนะ
พระมหากัจจายนะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเมืองยะลา อยู่กลางแจ้งภายในวัด องค์ใหญ่สวยงาม หากหมั่นทำความดีเมื่อมาขอพรจากท่านมักจะประสบความสำเร็จ อยู่ห่างจากศาลากลางไปทางถนนสุขยางค์ทางออกมุ่งสู่อำเภอเบตงประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโรงเรียนตำรวจภูธร 9 (กองบัญชาการส่วนหน้า)

วัดพุทธาธิวาส

วัดพุทธาธิวาส
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ ณ วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขามีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ มหาเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฏีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เขื่อนบางลาง

เขื่อนบางลาง
เขื่อนบางลางในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองยะลาสู่อำเภอเบตง บนเส้นทางหลวงสายยะลา-เบตง สามารถแวะชมทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนบางลางได้ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา 58 กิโลเมตร และเข้าไปในตัวเขื่อนอีกประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเขื่อนบางลางสร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ทิวเขาสันกาลาคีรี สันปันน้ำระหว่างไทยกับมาเลเซียในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ด้วยฝีไม้ลายมือมนุษย์ทำให้พื้นที่บริเวณเหนือเขื่อน กลายสภาพเป็นทะเลสาปน้ำจืดกลางหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีจากพันธุ์พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดและภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวเรียงรายสลับซับซ้อนโอบล้อมอยู่ ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ มีอาคารบ้านพักตากอากาศ ห้องจัดประชุม ร้านอาหาร สนามเทนนิส สนามเปตอง สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล แพล่องชมทัศนียภาพ ไว้บริการให้ความสะดวกแก่ผู้มาเยือน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะเหมาะต่อการท่องเที่ยวแล้วเขื่อนบางลางยังคงคุณสมบัติของเขื่อนเอนกประสงค์ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกในภาคใต้ไว้ได้เช่นเดิมคือ ช่วยในการป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้าและการประมง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม,ติดต่อบ้านพักโทรฯ 0-7329-9237-8, 0-7329-7099 ล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาปเหนือเขื่อน โทรฯ 0-7328-1063-66 ต่อ 2291)

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
ยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินตามรอยพระบาทชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีอาหารการกินที่หลากหลายทั้ง ไทย จีน มุสลิม ผู้คนรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดเป็นเพียงภาพลวงตา อีกไม่นานก็จะหายไป เพราะเขาเองก็เบื่อเต็มทนแล้วเพราะตั้งแต่วันแรกที่หลงผิดชีวิตยังหาความสุขไม่ได้ จะขอกลับมาเป็นคนดีของสังคมเร็วๆนี้

อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ

อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์