ยินดีต้อนรับสู่ Swiftlet Lover Blog. เป็น blog/website สำหรับผู้สนใจการเลี้ยงและการทำบ้านนกแอ่น เป็นศูนย์กลางของข้อมูล ข่าวสาร และ วิชาการ เพื่อผู้สนใจชาวไทยโดยเฉพาะ นำเสนอ โดย อภิชาต อริยะพันธุ์(เทพชัย อริยะพันธุ์ อดีตผู้ก่อตั้ง) จังหวัดยะลา
Saturday, May 31, 2008
ท่านจะมีรายได้เท่าไร?จากการลงทุนหากบ้านนกแอ่นของท่านประสบความสำเร็จ
-1. ความมั่งคั่งจากการขายรังนกแอ่น
-รังนกแอ่นประมาณ 110 รัง = 1 กิโลกรัม
-รังนกแอ่น 1 กิโลกรัม ราคาประมาณ = 45,000 บาท
สำหรับบ้านนกแอ่นที่สำเร็จแล้วทุกๆพื้นที่ 1 ตารางฟุต (30.48 ตารางเซนติเมตร) สามารถให้ผลผลิตรังนกแอ่น 1 รัง ทุกๆ 4 เดือน (แบบสบายๆจำนวนนกแอ่นยังไม่แออัด)
แบบบ้านมาตรฐาน 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ 5 x 25 เมตร ให้พื้นที่ทั้งหมด = 5 x 25 x 2 = 250 ตารางเมตร
-ทำ 1 ตารางฟุตให้เป็นตารางเซนติเมตร = 30.48 x 30.48 = 929.03 ตารางเซนติเมตร
-ทำ 1 ตารางเมตรให้เป็นจำนวนรังนกแอ่น = 100 x 100 = 10,000 หารด้วย 929.03 = 10.76 รัง
-ทุกๆ 1 ตารางเมตร ได้รังนกแอ่น 10.76 รัง ถ้า 250 ตารางเมตร จะได้รังนกแอ่น = 250 x 10.76 = 2,690 รัง
-ทุกๆ 4 เดือน ได้รังนกแอ่น 2,690 รัง ดังนั้น 1 ปี จะได้รังนกแอ่น = 2,690 x 3 = 8,070 รัง
-ทำให้เป็นจำนวนกิโลกรัม = 8,070 รัง หารด้วย 110 รัง = 73.36 กิโลกรัม
-ทำให้เป็นจำนวนตัวเงินรายได้ที่รับ = 45,000 x 73.36 = 3,301,200 บาท/ปี
จะเห็นว่าขนาดพื้นที่ 1 ตารางฟุต ได้ผลผลิตรังนกแอ่น 1 รัง แบบสบายๆไม่แออัดยังมีรายถึง 3.3 ล้านบาท ถ้าหาก 1 ตารางฟุต ได้ผลผลิตรังนกแอ่น 5 รัง แบบแออัดนกแอ่นขยายประชากรเพิ่ม ท่านรองคำนวณดูอีกที :-
-1 ตารางฟุต ได้ผลผลิตรังนกแอ่น 5 รัง = เพิ่มขึ้น 5 เท่า = 10.76 x 5 = 53.8 รัง
-1 ตารางเมตร ได้ผลผลิตรังนกแอ่น 53.8 รัง ถ้า 250 ตารางเมตร = 250 x 53.8 = 13,450 รัง
-ทุกๆ 4 เดือน ได้ผลผลิตรังนกแอ่น 13,450 รัง ดังนั้น 1 ปี จะได้รังนกแอ่น = 13,450 x 3 = 40,350 รัง
-ทำให้เป็นจำนวนกิโลกรัม = 40,350 รัง หารด้วย 110 รัง = 366.81 กิโลกรัม
-ทำให้เป็นจำนวนเงินรายได้ที่รับ = 45,000 x 366.81 = 16,506,450 บาท
จะเห็นว่าถ้าบ้านนกแอ่นของท่านประสบความสำเร็จสูงสุด มีนกแอ่นเข้าอาศัยจำนวนมาก มีพื้นที่ให้เกาะพักและทำรังมาก ท่านจะยิ่งได้ผลผลิตรังนกแอ่นมาก การประมาณการรายได้ที่ผมนำเสนอนี้เพียงเพื่อให้ท่านนำไปคิดเล่นๆเพลินๆยามว่าง อย่าฝันหวานจนตาโตหล่ะ! ขยันทำการบ้านเรื่องอุณหภูมิและความชื้นให้มากๆหน่อย แล้วท่านจะยิ้มหวานๆได้ ตัวเลขรายได้ประมาณ 16 ล้าน/ปี นั้นต้องตั้งใจและทุ่มเทจริงๆครับ
-2. ความมั่งคั่งจากการขายบ้านนกแอ่น
หลังจากท่านทำบ้านนกแอ่นไปได้สักระยะหรือประมาณ 2 ปี บ้านนกแอ่นของท่านประสบความสำเร็จ ได้รังนกแอ่นประมาณ 500 รัง จะมีผู้สนใจที่อยากจะซื้อ ท่านเองก็อยากจะขาย เพราะจะได้เงินก้อนใหญ่ และท่านเองก็มีความเชี่ยวชาญในการทำบ้านนกแอ่นแล้ว ก็สามารถนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งไปลงทุนใหม่ได้
ราคาการขายบ้านนกแอ่นที่สำเร็จแล้วพอจะประเมินได้ดังนี้ :-
-1. ราคาบ้านพร้อมที่ดินที่ท่านซื้อมาทำบ้านนกแอ่น
-2. ราคาค่าดัดแปลงบ้าน พร้อมอุปกรณ์ทุกอย่าง
-3. ราคาค่ารังนกแอ่นที่มีอยู่ ประมาณ 10,000 บาท/ 1 รังนกแอ่น
ดังนั้นหากท่านซื้อบ้านพร้อมที่ดินมาราคา 2,500,000 บาท ค่าดัดแปลงบ้านพร้อมอุปกรณ์ทุกอย่าง 750,000 บาท บ้านนกแอ่นของท่านสามารถเก็บรังนกแอ่นได้ 500 รัง เท่ากับจำนวนรังนกแอ่น 500 รัง x คูณด้วย 10,000 บาท = 5,000,000 บาท
จำนวนเงินที่ได้รับจากการขายบ้านนกแอ่นของท่าน เท่ากับ 2,500,000 + 750,000 + 5,000,000 = 8,250,000 บาท
โอ้ย! ผมชักจะมึนๆกับตัวเลขเสียแล้ว ผิดถูกอย่างไรท่านไปคิดต่อนะครับ
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
Thursday, May 29, 2008
เคล็ดลับการติดตั้งลำโพงเสียงเรียกใน
Wednesday, May 28, 2008
เครื่องเสียงสำหรับบ้านนกแอ่น
Sunday, May 25, 2008
การเซาะร่องบนไม้ตีรัง
การเซาะร่องที่ง่ายและเร็วคือการใช้เลื่อยตัดไม้ไฟฟ้าที่ใช้ใบตัดแบบแผ่นกลม ใช้แผ่นเลื่อยหนา 2 มิลฯก็พอ ร่องจะได้ไม่ใหญ่มาก ตั้งความลึกของร่อง 2 มิลฯ จะเซาะกี่ร่องก็ได้ตามใจชอบ 3 ร่อง 5 ร่อง 7 ร่อง หรือ 10 ร่อง ความห่างของร่อง 1 นิ้ว หรือครึ่งนิ้วก็ขึ้นอยู่กับจำนวนร่องที่ท่านจะเซาะ และความกว้างของไม้ตีรังที่ท่านเลือกใช้
ภาพข้างบนคือตัวอย่างของการเซาะร่องบนไม้ตีรังหน้ากว้าง 6 นิ้ว เซาะเพียง 3 ร่อง ห่างกันร่องละ 1 นิ้ว เซาะทั้ง 2 ด้าน
ยังไม่มีการยืนยันจากผู้มีประสบการณ์ในการทำบ้านนกแอ่นว่า การเซาะร่องบนไม้ตีรังนั้นเซาะกี่ร่องถึงจะดีที่สุด ในหนังสือหลายๆเล่มก็ไม่ให้รายละเอียดเรื่องการเซาะร่องบนไม่ตีรัง มีให้เห็นบ้างจากภาพตามเว็บนกแอ่นต่างๆ แต่ละบ้านก็เซาะร่องไม่เหมือนกัน ถ้ายึดตามหนังสือ "Make Millions From Swiftlet Farming" ของ Dr. Christopher Lim เซาะร่องหลายๆร่องไว้ก่อนดีกว่า บ้านนกแอ่นของท่านใช้ไม้หน้ากว้าง 8 นิ้ว เซาะร่อง 15 ร่อง(ภาพบนที่มีนกแอ่น)
การเซาะร่องบนไม้ตีรังก็ขอให้ท่านที่กำลังจะทำบ้านนกแอ่นคิดเอาเองว่าจะเซาะกี่ร่อง ถ้าคิดไม่ออกก็เลือกเลขที่ท่านชอบ เลขที่ท่านคิดว่าสวยก็ได้
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
Saturday, May 24, 2008
การตีไม้รัง
การตีไม้รังให้ได้ผลหรือมีประสิทธิภาพ จะใช้ไม้แผ่นหนา 1 - 1.5 นิ้ว กว้าง 6 -8 นิ้ว โดยการตีไม้รังจะมี 2 ลักษณะคือ:-
-1. การตีไม้รังขนานไปกับทิศทางของแสงสว่างที่เข้าสู่ภายในบ้านนกแอ่น ขอเรียกว่า "ไม้แนว" หรือไม้รังที่ตีตามแนวบินของนกแอ่น
-2. การตีไม้รังขวางทิศทางของแสงสว่างที่เข้าสู่ภายในบ้านนกแอ่น ขอเรียกว่า "ไม้ขวาง" หรือไม้รังที่ตีตามแนวขวาง ขวางแนวบินของนกแอ่น
ระยะห่างของ "ไม้แนว" ไม่ควรต่ำกว่า 50 เซนติเมตร และไม่ควรเกิน 100 เซนติเมตร
ระยะห่างของ "ไม้ขวาง" ประมาณ 30 - 40 เซนติเมตร
การตีไม้รังที่ถูกต้องจึงออกมาในรูปของกล่องหรือตาราง โดยมีขนาด 30 x 50 เซนติเมตร หรือ ขนาด 30 x 100 เซนติเมตรให้เลือกใช้ ขนาด 30 x 50 เซนติเมตรป้องกันแสงสว่างและลมได้ดีแต่นกแอ่นบินเข้าเกาะยาก ขนาด 30 x 100 เซนติเมตร นกแอ่นบินเข้าเกาะได้ง่าย บ้านนกแอ่นส่วนใหญ่จึงใช้ขนาด 30 x 100 เซนติเมตร การตีไม้รังที่ดีและถูกต้องจึงควรตี "ไม้ขวาง" มากกว่า "ไม้แนว" (ดูตารางการตีไม้รังจากภาพข้างบนประกอบเพื่อความเข้าใจ)
การตีไม้รังจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับท่านหากท่านเข้าใจเรื่องวงบินของนกแอ่น การจะกำหนดให้บริเวณใดควรมี "ไม้แนว" หรือ "ไม้ขวาง" จึงขึ้นอยู่กับความเข้าใจของท่านในเรื่องวงบินของนกแอ่น แต่ท่านไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้จนเกินไป นกแอ่นจะพยายามปรับตัวเข้ากับสภาพภายในบ้านนกแอ่น ขอเพียงให้ท่านเน้นเรื่องการมีพื้นที่เกาะและทำรังอย่างเพียงพอ ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสม ใช้เสียงเรียกที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอ
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
Tuesday, May 20, 2008
ประวัติการพัฒนาการไม้ตีรังในบ้านนกแอ่น
บ้านนกแอ่นยุคแรกๆได้ถูกพบพ้องกันหรือตรงกันกับการที่เราได้รับรู้ว่า นกแอ่นเป็นนกป่านกทะเลอาศัยอยู่ในถ้ำธรรมชาติตามเกาะแก่งต่างๆกลางทะเล หรือถ้ำบนผืนป่า หน้าผาใกล้ชายฝั่งทะเล ทำรังกระจัดกระจายบนผนังถ้ำ เพราะผนังถ้ำมีความแข็ง นกแอ่นจึงไม่สามารถเกาะได้ง่ายๆเพื่อทำรังทั่วทุกพื้นที่บนผนังถ้ำ ไม่มีส่วนที่เป็นไม้ภายในถ้ำซึ่งนกแอ่นสามารถเกาะและทำรังได้ง่ายกว่า เมื่อภายในถ้ำเกิดความแออัดจากการเพิ่มของประชากรนกแอ่น
หรืออุปสรรคอื่นๆ ทำให้นกแอ่นกลุ่มแรกๆได้อพยพจากถ้ำนกแอ่นสู่บ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อทำรัง
อุปสรรคและเงื่อนไขต่างๆที่ทำให้นกแอ่นบางส่วนอพยพจากถ้ำสู่บ้านเรือนของชาวบ้านมีดังนี้:-
-1. ภัยพิบัติ น้ำท่วม ดินถล่ม และสิ่งอื่นๆ เช่น ปากถ้ำถูกพืชไม้เลื้อยเจริญงอกงามปกคลุม ทำให้ถ้ำนกแอ่นเกิดความไม่สะดวกสบายที่จะอยู่ต่อไป
-2. มีศัตรูรบกวนจำนวนมาก เช่น หนู งู แมลงสาป ตัวไร นกเหยี่ยว นกแสก พวกเก็บรังนก
-3. ถ้ำนกแอ่นเริ่มห่างจากแหล่งอาหารเกินไป นกแอ่นจะอพยพไปอยู่ใกล้แหล่งอาหาร ปกตินกแอ่นจะออกหากินในรัศมี 25 กิโลเมตรจากถิ่นที่อยู่อาศัย ถ้าหากต้องบินไกลกว่า 25 กิโลเมตรจากถิ่นที่อยู่อาศัย นกแอ่นจะอพยพไปหาที่อยู่ใหม่ใกล้แหล่งอาหาร เช่น นาข้าว ทุ่งหญ้า แม่น้ำ พื้นที่เพราะปลูก ป่าไม้ สุมทุมพุ่มไม้ ป่าชายเลน
-4. ภายในถ้ำนกแอ่นเกิดความแออัด ทำให้ลูกนกแอ่นที่เกิดใหม่ไม่สามารถหาที่ทำรังได้
ด้วยอุปสรรคและเงื่อนไขต่างๆดังกล่าว และเพราะว่ามีบ้านเรือนของชาวบ้านที่มีความเหมาะสมทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ความมืด และความปลอดภัย นกแอ่นอพยพเหล่านี้จึงเริ่มทำรังในบ้านเรือนของชาวบ้าน เช่น บ้านร้าง โรงงานร้าง โกดังเก็บของร้าง
บ้านเรือนและตึกที่นกแอ่นเข้าอยู่อาศัยคือบ้านเรือนและตึกที่มีเงื่อนไขคล้ายกับถ้ำนกแอ่น เช่น ตึกเก่าที่ก่อด้วยอิฐ ประตูและหน้าต่างถูกปิดทิ้งร้างเป็นเวลานาน ทำให้อุณหภูมิและความชื้นภายในบ้านคงที่ ตรงกันข้าม บางบ้านเรือนและบางตึกที่ทิ้งร้างมานาน แต่อุณหภูมิและความชื้นไม่เหมาะสม นกแอ่นก็ไม่เข้าอยู่อาศัย เราจึงเห็นนกแอ่นเลือกเข้าเป็นบางบ้านบางตึกเท่านั้น จึงเป็นที่มาของเรื่องความเชื่อเรื่องบุญวาสนา
การพัฒนาการของไม้ตีรัง:-
-1. แรกๆนกแอ่นจะทำรังบนกำแพงก่อน ซึ่งมีความคล้ายผนังถ้ำมากกว่าบนไม้
-2. บ้านเรือนเก่ามีมุมที่ซ้อนเร้น มีไม้ระแนงใต้หลังคา มีโครงไม้เพดาน นกแอ่นใช้อุ้งเล็บเกาะบนไม้ได้ง่ายกว่าบนกำแพง รังนกเกาะบนไม้ได้ดีกว่าบนกำแพง บ้านเรือนเก่าส่วนใหญ่ใช้ไม้สัก ดังนั้นผู้คนในยุคนั้นจึงเชื่อว่านกแอ่นชอบทำรังบนไม้สัก
-3. บ้านนกแอ่นในยุคนั้นผลิตรังนกแอ่นได้เท่าที่มีพื้นที่ของไม้ระแนง ไม้โครงพื้นโครงเพดานให้เกาะทำรัง รวมทั้งฝาผนังกำแพง เจ้าของบ้านยังไม่เคยคิดจะจัดการหรือทำพื้นที่เกาะทำรังเพิ่ม รู้จักแต่เก็บรังนกแอ่นขายอย่างเดียว
-4. บ้านเรือนเก่าบางหลังปล่อยทิ้งร้างจนไม้พุ ไม่ได้ซ่อมแซม จึงได้รังนกแอ่นน้อย
-5. เจ้าของบ้านเรือนเก่าเริ่มตระหนัก อยากได้รังนกแอ่นเพิ่มมากขึ้น เริ่มสังเกตุการใช้ไม้ชนิดต่างๆแทนไม้ที่พุ ใช้ไม้แผ่นแทนไม้ระแนง ปรากฎว่านกแอ่นทำรังบนไม้ที่ตีให้ใหม่ ไม้สักก็ยังคงใช้อยู่บ้างเพราะทนทานดีไม่พุง่าย แต่เจ้าของบ้านไม่ค่อยชอบใจ ไม้สักราคาแพงและหายาก
-6. หลังจากให้ความสนใจเรื่องไม้ตีรังจนพบว่า นกแอ่นชอบไม้ที่มีใย ไม่มีกลิ่น ไม่สกปรก ไม่ขึ้นรา กบบางๆพอขุยไม้ออกไม่ต้องให้เรียบจนลื่นมือ ไม่จำเป็นต้องไม้สักอีกต่อไป ไม้อื่นๆก็ได้ ให้เป็นไม้ที่แข็งกลาง ไม่มีกลิ่น มีใยบ้างยิ่งดี
-7. โดยการทดสอบเพื่อเพิ่มผลผลิตรังนกแอ่นและคุณภาพของรังนกแอ่น พบว่านกแอ่นชอบไม้ชนิดใหม่ ไม้ชนิดนี้สามารถดึงดูดให้นกแอ่นทำรังภายใน 4-5 สัปดาห์ และรังนกแอ่นสามารถเก็บเกี่ยวได้ง่าย ไม้ชนิดนี้คือ SWO-2 หรือไม้ "สยาหิน" นั่นเอง ไม้ชนิดนี้ไม่มีกลิ่น เบา และแข็งกลาง มีการเซาะร่องหลายๆร่องบนแผ่นไม้ เพื่อให้นกแอ่นเกาะและตั้งคิ้วทำรังได้ง่ายขึ้น
-8. ไม้ SWO-2 หรือ ไม้สยาหิน หลายๆขนาด ทั้งความกว้าง ความหนา ได้ถูกทดลองใช้เพื่อให้สามารถผลิตรังนกแอ่นเพิ่มขึ้น
-8.1. ไม้หนา 2-3 เซนติเมตร สามารถตีตะปูได้ง่าย ยึดกับเพดานได้มั่นคง นกแอ่นรู้สึกปลอดภัย
-8.2. ไม้กว้าง 15, 20, 30 เซนติเมตร สามารถบังแสงและลมได้ดี
จากการประมวลการพัฒนาการของไม้ตีรัง จนถึงการใช้ไม้ SWO-2 หรือไม้สยาหิน ทั้งความหนาและความกว้างของไม้ มีความเกี่ยวพัน 2 หน้าที่คือ
- ถ้าตีไม้รังขนาด 30 x 100 เซนติเมตร ควรใช้ไม้หน้ากว้าง 15-20 เซนติเมตร
- ถ้าตีไม้รังขนาดใหญ่กว่า 30 x 100 เซนติเมตร ควรใช้ไม้หน้ากว้าง 20-30 เซนติเมตร
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
Sunday, May 18, 2008
เปิดใจผู้เขียนอีกครั้ง
เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่ Blog. ของผมทำให้ทั้งคุณBon และคุณKom ได้แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องตัวไรรบกวน ผมดีใจจริงๆที่เหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นที่ Blog. ของผม ผมอยากให้ท่านอื่นๆได้ใช้ประโยชน์จากBlog. ของผมด้วย ตั้งแต่ทำ Blog.มาผมไม่เหงาเลย เพราะมีเพื่อนใหม่โทรฯมาคุยเกือบทุกวัน ไม่ได้นั่งเหงาอยู่คนเดียวเหมือนรูปข้างบน ดีใจมากๆ
ขณะนี้ผมได้เพิ่มเรื่องท่องเที่ยวจังหวัดยะลาเข้ามาใน Blog. อยากให้ท่านได้รู้จักเมืองยะลาบ้าง ผมในฐานะคนยะลาและอดีตเคยเป็นนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดยะลา 3 สมัย(6 ปี) จึงขอใช้ Blog. นี้ประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลาด้วย หากท่านสนใจอยากมาเที่ยวยะลา ท่านอาจจะได้ดูบ้านนกแอ่นของผมเป็นของแถมด้วยก็ได้ มาคุยเรื่องนกแอ่นด้วยก็ได้
ส่วนเรื่องนกแอ่นจะเขียนต่อไปเรื่อยๆ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้เขียน ผมเองมีเวลาว่างน้อยจริงๆ หากท่านสนใจเรื่องใดเกี่ยวกับนกแอ่นที่ยังไม่ได้เขียนถึงก็แจ้งเข้ามาได้ จะเขียนเรื่องที่ท่านอยากจะรู้ก่อนก็ได้ เอาใจผู้สนใจทุกท่านครับ โปรดอย่าได้เกรงใจขอให้โทรฯหรือ Post ใน C Box ช่องแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ! ก็ได้ ยินดีต้อนรับทุกท่านเสมอ
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
Saturday, May 17, 2008
ตัวไรในบ้านนกแอ่นกำจัดอย่างไร? (Bird Bug)
ถ้าหากบ้านนกแอ่นหลังใดประสบปัญหาเรื่องตัวไร มีตัวไรมาก นกแอ่นก็อยู่ไมมีความสุข มีผลต่อคุณภาพของรังนกแอ่น มีผลต่อการเพิ่มของประชากรนกแอ่น ดังนั้นตอนที่ท่านเริ่มทำบ้านนกแอ่น ตอนตีไม้รังท่านจึงควรให้ช่างตีไม้รังให้แนบสนิทกันมากที่สุด ถ้ามีร่องหรือรอยแตกก็ให้อุดให้ยาให้สนิทเพื่อไม่ให้ตัวไรมีที่หลบอาศัยมากนัก
การแก้ปัญหาเรื่องตัวไรก็ต้องใช้น้ำยาฉีดพ่นบริเวณไม้ตีรัง ตามร่องไม้รอยแตก ควรทำทุกๆ 3 เดือน หรือหลังเก็บรังนกแอ่นทุกครั้ง น้ำยามีขายหลายบริษัท แต่ควรเลือกจากแหล่งที่ทำน้ำยาฆ่าตัวไรสำหรับบ้านนกแอ่นโดยเฉพาะ เรื่องตัวไรฟังดูอาจน่ากลัว เหมือนเป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะแก้ บางบ้านประสบปัญหาแล้วไม่แก้ไขจะมีผลกระทบต่อนกแอ่น
ตัวไรจะมีขนาดเล็กมาก ออกจากไข่ใหม่ๆจะมีสีขาว แก่ตัวหน่อยจะมีสีน้ำตาลอ่อนหรือสีส้ม เมื่อกัดและดูดเลือดลำตัวจะแดงขึ้น ขณะกัดจะไม่รู้สึกเจ็บ จะรู้สึกตอนเริ่มคัน แผลถูกกัดจะคล้ายแผลถูกยุงและแมลงอื่นๆกัด
มีปัญหาเรื่องตัวไรในบ้านนกแอ่น คิดไม่ออกไม่รู้จะถามใคร โทรฯมาคุยมาถามได้นะครับจะแนะนำแหล่งที่ซื้อน้ำยาให้
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
Thursday, May 15, 2008
นกแสกเข้าบ้านนกแอ่นอะไรจะเกิดขึ้น?
Tuesday, May 13, 2008
การใช้ขี้นกแอ่นโรยในบ้านนกแอ่นใหม่
การทำบ้านนกแอ่นใหม่ หากท่านสามารถหาขี้นกแอ่นมาโรยตามพื้นให้ทั่วภายในบ้านนกแอ่น จะเป็นการช่วยกลบกลิ่นของซีเมนท์ กลิ่นสี กลิ่นเชื่อมโลหะ ฯลฯ สร้างกลิ่นที่นกแอ่นคุ้นเคยที่สุดให้กับบ้านนกแอ่นใหม่ ทำให้นกแอ่นตัดสินใจเข้าอยู่อาศัยได้เร็วขึ้น
ผมเคยมีประสบการณ์เรื่องขอซื้อขี้นกแอ่นจากคนที่รู้จักซึ่งอยู่คนละจังหวัด เพื่อนำมาโรยในบ้านนกแอ่นของผม ก่อนเริ่มเปิดเสียงเรียกนกวันแรก ได้ถูกปฎิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย "โอ้ย! ไม่มีใครเขาขายให้หรอก เดียวมาทำแข่งกับเขา" จะสั่งซื้อจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ก็นึกอายเขา อะไรกัน ประเทศไทยมีบ้านนกแอ่นตั้งมากมาย หาซื้อขี้นกแอ่นยังต้องซื้อจากต่างประเทศ เลยตัดสินใจไม่โรยขี้นกแอ่น ทุกวันนี้นกแอ่นเข้าอยู่แล้วกว่าพันตัว ได้รังนกแอ่นกว่า 300 รัง ใน 6 เดือน โดยไม่ได้โรยขี้นกแอ่น
ที่เขียนเรื่องนี้ไม่ได้แนะนำให้ท่านทำตามผม แต่อยากแนะนำให้ท่านใช้ขี้นกแอ่นโรยตอนทำบ้านนกแอ่นใหม่ๆ เพื่อให้องค์ประกอบของการทำบ้านนกแอ่นใหม่ครบถ้วน เร่งให้นกแอ่นตัดสินใจเข้าอยู่อาศัยเร็วขึ้น หากท่านหาขี้นกแอ่นไม่ได้ให้บอกผม ผมจะรีบส่งไปให้ ให้ฟรี ไม่อยากให้ท่านเจอคนขี้เหนียวเหมือนที่ผมเจอ
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
Saturday, May 10, 2008
รังนกแอ่นแท้VS.รังนกแอ่นปลอม
Friday, May 9, 2008
ทำรายได้ 400 ล้าน/ปีที่สุราษฎร์ธานี
นายประชุม เจนเจริญวงศ์ยังกล่าวว่า การเลี้ยงนกแอ่นเป็นธุรกิจที่ควรพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมท้องถิ่น และควรสร้างความไว้วางใจต่อผู้บริโภคเรื่องความสะอาด การดูแลนกแอ่น ให้เป็นระบบฟาร์มที่ถูกต้อง
ผมเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง อยากให้ทุกจังหวัดที่สามารถทำการเลี้ยงนกแอ่นในลักษณะบ้านนกแอ่นแบบฟาร์มส่งเสริมให้เป็นอุตสาหกรรมท้องถิ่น ให้มีรายได้เข้ามาในท้องถิ่นจำนวนมากๆ ส่วนข้อมูลความรู้ในเรื่องการทำบ้านนกแอ่นนั้น ผู้ที่มีประสบการณ์ควรถ่ายทอดความรู้เป็นวิทยาทานให้ผู้ที่สนใจการทำบ้านนกแอ่นได้รับรู้บ้าง ช่วยกันทำเพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกรังนกแอ่นอันดับหนึ่งให้ได้
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
Wednesday, May 7, 2008
โลกร้อนทำแมลงเขตร้อนสูญพันธุ์
Tuesday, May 6, 2008
โรคนกแอ่น (Swiftlet Disease)
นอนตอนกลางคืนก็คิดถึงแต่นกแอ่น อยากมีบ้านนกแอ่นหลายๆหลัง ฝันเห็นรังนกแอ่นเต็มไปหมด ทำให้เป็นคนตื่นเช้าเพราะอยากดูนกแอ่นบินออกจากบ้านนกแอ่น ตอนเย็นก็ไม่อยากมีนัดกับใคร อยากกลับบ้านไปดูนกแอ่นบินกลับบ้าน นั่งนับนกแอ่นเพลินใจ
โทรศัพท์มือถือเสียงเรียกเข้าก็ต้อง MP3 เสียงเรียกนกแอ่น ฟังแล้วชื่นใจ สะท้านใจจริงๆ
วันๆก็เอาแต่อยู่หน้าคอมฯ เข้าแต่เว็บนกแอ่นหาข้อมูลตลอด คุยกับใครเรื่องอื่นก็ไม่สนุกเท่าเรื่องนกแอ่น
กินรังนกแอ่นทุกวัน ฟิตเปรียะ รวยก็ไม่กล้าบอกใคร
ถ้าอาการของท่านเป็นดังนี้ ท่านเป็นโรคนกแอ่นแน่นอน
ฮา ฮา ฮา
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์ (เป็นโรคนี้แล้วจ้า!)
Monday, May 5, 2008
การสร้างบ้านนกแอ่น(Construction of Swiftlet House)
ในช่วงเวลา 20 - 30 ปี ที่ผ่านมา คนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าไม่สามารถที่จะทำบ้านให้นกแอ่นอยู่ได้ ทุกวันนี้คนไทยบางส่วนก็ยังคงเชื่อเช่นนี้ เชื่อว่าคนที่มีบ้านและมีนกแอ่นเข้าอยู่อาศัย คือคนที่มีโชคมีบุญวาสนา การจะทำบ้านและเรียกให้นกแอ่นเข้าอยู่อาศัยเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้(Impossible)
เจ้าของบ้านนกแอ่นหลายๆคนที่ผมรู้จักและได้พูดคุยด้วย เป็นบ้านนกแอ่นที่สำเร็จสูงสุด ก็ยังไม่เคยบอกรายละเอียดใดๆให้ผมทราบ เหตุผลของเขาคือ ข้อแรกเรื่องความปลอดภัย ข้อที่สองไม่อยากให้มีบ้านนกแอ่นใหม่เพิ่มขึ้น ข้อที่สามไม่อยากแบ่งบันข้อมูลความรู้เรื่องนี้กับใครๆ
การจะดูว่าบ้านนกแอ่นหลังใดประสบความสำเร็จหรือไม่ ดูไม่ยาก เพียงท่านตื่นแต่เช้าเวลา 6.00 น. - 8.00 น. ไปยืนดูนกแอ่นบินออกจากช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่น หรือถ้าขี้เกียจตื่นเช้าก็ไปยืนดูตอนเย็นเวลา 18.15 น. - 19.00 น. ถ้าท่านเห็นนกแอ่นบินเข้าหรือบินออกเป็นร้อยๆตัวก็แสดงว่าบ้านนกแอ่นหลังนั้นประสบความสำเร็จ
คำแนะนำที่ผมอยากให้กับท่านที่คิดจะทำบ้านนกแอ่น ในการเลือกสถานที่หรือทำเล โปรดเลือกสถานที่หรือทำเลที่มีบ้านนกแอ่นจำนวนน้อย แต่ต้องมีบ้านนกแอ่นที่สำเร็จแล้วอยู่บ้างเพื่อความมั่นใจ หรือจะทำเป็นหลังแรกๆยิ่งดี ถ้าพื้นที่ใดมีบ้านนกแอ่นที่ทำมานานแล้วเป็นจำนวนมาก คือเกิน 10 หลัง การเรียกนกแอ่นเข้าอยู่อาศัยในบ้านนกแอ่นใหม่ของท่านจะค่อนข้างยากและใช้เวลานาน ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีตึกนกแอ่นเป็นร้อยหลัง แต่ที่ประสบความสำเร็จจริงๆประมาณ 30% เท่านั้น ในประเทศไทยมีบ้านนกแอ่นประมาณ 73,000 หลัง ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดประสบความสำเร็จ เหตุผลของการไม่ประสบความสำเร็จคือ เจ้าของบ้านนกแอ่นส่วนใหญ่ขาดความรู้ ความเข้าใจที่แท้จริง ไม่สามารถทำเงื่อนไขให้ได้ตามมาตรฐานที่นกแอ่นต้องการ
จำนวนบ้านนกแอ่นในพื้นที่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia):-
- 1. ประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 165,000 หลัง
- 2. ประเทศไทย ประมาณ 73,000 หลัง
- 3. ประเทศมาเลเซีย ประมาณ 35,000 หลัง
- 4. ประเทศเวียตนาม ประมาณ 5,000 หลัง
- 5. ประเทศกัมพูชา ประมาณ 1,000 หลัง
ประชากรนกแอ่นเพิ่มขึ้นตลอดตั้งแต่เริ่มมีการทำบ้านนกแอ่น เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นโอกาสที่ดีของการลงทุนทำบ้านนกแอ่น ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในภูมิภาคนี้ พื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยเกือบทุกจังหวัดสามารถทำบ้านนกแอ่นได้ แต่ยังไม่ได้มีการสำรวจพื้นที่โดยละเอียด ยังไม่มีการทำโซนนิ่งเหมือนประเทศมาเลเซีย
ตลาดรังนกแอ่นจะยังคงตื่นตัวตลอดไป เพราะความต้องการบริโภครังนกแอ่นยังมากเกินกว่าความสามารถในการผลิตรังนกแอ่นเพื่อสนองตอบความต้องการ ปี 2007 ประเทศไทยส่งออกรังนกแอ่น 19% ของความต้องการของตลาดโลก อินโดนีเซีย 62% มาเลเซีย 8% ประเทศจีนและฮ่องกงบริโภครังนกแอ่นมากกว่า 100 ตัน/ปี ใต้หวันและประเทศอื่นๆประมาณ 50 ตัน/ปี
จากบทความที่ประมวลมาจนถึงตัวเลขที่กล่าวถึง คิดว่าท่านคงเข้าใจถึงสภาพแวดล้อมของการทำบ้านนกแอ่น การทำบ้านนกแอ่นให้ประสบความสำเร็จนั้นยังมีโอกาส เพราะประชากรนกแอ่นเพิ่มขึ้นตลอด และกลุ่มผู้บริโภคก็ยังมีอยู่ตลอด การทำบ้านนกแอ่นที่ถูกหลักวิชาการและวิธีการย่อมประสบความสำเร็จได้ ขอให้ทุกท่านโชคดี
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
Saturday, May 3, 2008
การทำความสะอาดรังนกแอ่น
ขั้นแรก: ล้างรังนกแอ่นให้สะอาด ใช้น้ำธรรมดาไม่ควรใช้น้ำประปาเพราะจะมีกลิ่นคลอรีน เสร็จแล้วนำรังนกแอ่นแช่น้ำทิ้งไว้ 2-3 ชั่งโมง เพื่อให้รังนกแอ่นขยายตัวขึ้นประมาณ 3-4 เท่าตัวของรังปกติ จับดูด้วยนิ้วว่านิ่มพอที่จะสามารถเลือกขนนกและเศษขยะที่ปะปนออกได้ง่ายหรือยัง ถ้านิ่มแล้วตักลงใส่ถ้วยเปล่าที่แห้ง ใช้แหนบปลายแหลมค่อยๆคีบขนนกออกทีละชิ้น จนรังนกแอ่นสะอาด ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับรังนกแอ่นอื่นๆตามจำนวนที่ต้องการ ถ้าท่านทำความสะอาดเพื่อไว้รับประทานเอง ก็ใส่ลงหม้อตุ๋นได้เลย หากจะรับประทานวันหลังจากนี้ ก็ให้ผึ่งไว้ในร่มจนแห้งสนิท วิธีผึ่งลมให้แห้งสนิท ควรวางลงบนแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ ตัดแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ขนาด 5 x 5 เซนติเมตร นำรังนกแอ่นที่ทำความสะอาดแล้ว จัดวางลงบนแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ให้ดูสวยงาม เมื่อแห้งสนิทแล้ว เก็บไว้ให้ดีอย่าให้ถูกน้ำ จะได้ไม่ขึ้นรา
สำหรับโรงงานที่รับทำความสะอาดรังนกแอ่นที่ใช้พนักงานจำนวนมาก ก็จะใช้วิธีการเดียวกัน แต่เขาจะมีตัวแบบที่ทำสำเร็จรูป เพื่อจัดวางรังนกแอ่นที่ทำความสะอาดแล้วลงไป นำรังนกแอ่นที่จัดวางลงบนตัวแบบเข้าตู้อบจนแห้งสนิท เมื่อแกะรังนกแอ่นออกจากตัวแบบ รังนกแอ่นทุกอันจะมีรูปทรงที่เหมือนๆกัน เมื่อเรียงลงกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาสวยงาม ทำให้รังนกแอ่นดูดีมีราคาสมเป็นอาหารเสริมที่มีคุณค่าสูงที่สุด
ผมเคยเขียนแนะนำเรื่องราคารังนกแอ่นที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดว่า มักถูกผู้รับซื้อรังนกแอ่นกดราคา โดยอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ รังเล็กบ้าง รังสกปรกบ้าง ขนนกเยอะบ้าง นั่นคือเทคนิคการรับซื้อรังนกแอ่นของเขา แต่จริงๆแล้วรังนกแอ่น เมื่อเข้าสู่กระบวนการของโรงงานรับทำความสะอาด จะรังเล็กรังใหญ่ ขนนกมากหรือน้อย ก็ออกมาสวย ดูดีเหมือนกันหมด การรับซื้อ ซื้อกันเป็นกิโลกรัม ไม่ขาดไม่เกิน ตอนล้างทำความสะอาดและลงตัวแบบจึงออกมาเหมือนกันหมด
ดังนั้นท่านจึงควรนำเหตุผลเหล่านี้ไปพูดคุยกับผู้รับซื้อรังนกแอ่น เพื่อจะได้ราคาที่ดีที่เป็นเหตุเป็นผล
ภาพถ่ายทั้งหมดจาก Tri-Swallow
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์