Monday, June 23, 2008

กุญแจทองสู่ความสำเร็จในการทำบ้านนกแอ่น

มนุษย์เราต่างดิ้นรน ต่อสู้ ฝ่าฟัน ตลอดชีวิต หลายๆท่านประสบความสำเร็จแต่บางท่านก็ไม่มีโชค ความสำเร็จหลบหลีกท่านตลอดเวลา บางท่านใช้เวลาหลายปีกว่าจะประสบความสำเร็จ แต่บางท่านดูเหมือนแค่คิดความสำเร็จก็มาในทันทีทันใด นี่คือแนวความคิดรวบยอดที่ว่าชีวิตได้ผ่านการต่อสู้ ความสำเร็จของคนหนึ่งได้จับกุม ครอบงำ หรือมีอำนาจเหนือต่อคนอื่นๆ

ความหมายของความสำเร็จมีหลายรูปแบบและหลายนิยาม ขึ้นอยู่กับท่านว่าท่านค้นหาอะไร เพื่อชีวิต เพื่อธุรกิจ นักกีฬาก็มีนิยามของความสำเร็จอย่างหนึ่ง นักดนตรีก็มีนิยามความสำเร็จอย่างหนึ่ง ผู้ที่ทำบ้านนกแอ่นก็มีนิยามความสำเร็จอย่างหนึ่ง ซึ่งอันที่จริงแล้วขึ้นอยู่กับภาพซึ้งๆของชีวิตที่ท่านมีอยู่ ภาพซึ้งๆของความสำเร็จมีมากมายดุจดวงดาวบนท้องฟ้า แต่ท่านจำเป็นต้องเหลาหรือตะไบความเข้าใจของท่านต่อความสำเร็จ ตั้งความหวังไว้สูง ก็ต้องใช้พละกำลังมากเป็นธรรมดา

เริ่มต้นแบบพอเพียง Blog Site นี้ Swiftlet Lover ได้นำสิ่งที่เป็นความลับ สิ่งที่ผู้รู้ในเรื่องนี้ไม่อยากเปิดเผย ไม่อยากให้ท่านค้นพบ อยากให้ความลับเรื่องนี้ยังคงเป็นความลับไม่อยากแบ่งปันใคร แต่สำหรับผม มีความเชื่ออย่างแท้จริงว่าทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น นกแอ่น และความรู้เรื่องการทำบ้านนกแอ่นควรเปิดเผยและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สู่สาธารณะดีกว่าเก็บไว้เพื่อกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน

ท่านคงตระหนักแก่ใจหากท่านขุดพบน้ำมันดิบใต้พื้นบ้านของท่าน น้ำมันดิบเหล่านี้จะเป็นของรัฐบาลทันทีท่านไม่มีสิทธิ์ แต่ถ้าท่านสามารถเรียกหรือดึงดูดให้นกแอ่นเข้าอยู่อาศัยในบ้านนกแอ่นของท่านได้ นกแอ่นเหล่านี้เป็นสิทธิ์ของท่าน 100%ไม่มีคนอื่นยกเว้นภรรยาหรือสามีและลูกๆของท่าน บ้านนกแอ่นของท่านจะเป็นเหมืองทองคำขาวสำหรับท่าน หากท่านคิดว่าไม่มีเวลาว่างให้กับธุรกิจบ้านนกแอ่น นั่นเป็นข้ออ้างที่แสนจะโง่เขลาจริงๆ การทำบ้านนกแอ่นใช้เวลาส่วนน้อยของท่าน เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตสำหรับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนแก่ท่านมากมาย พวกมาเลเซีย สิงคโปร์ ยังแอบมาลงทุนถึงเมืองไทย คอนโดนกแอ่นหลายๆหลังในอำเภอปากพนังก็เป็นหนึ่งในนั้น

หลังจากท่านอ่านบทความทั้งหมดที่นำเสนอใน Swiftlet Lover Blog ลองหัดทำ Workshop บ้านนกแอ่นของท่านเอง เริ่มตั้งแต่จัดหาซื้อไม้ตีรัง คำนวณปริมาณไม้ที่ต้องใช้ ปิดช่องทุกช่องที่แสงสว่างเข้าได้ ติดตั้งระบบระบายอากาศ จัดทำระบบความชื้น ซื้อเครื่องทำความชื้น ซื้อเครื่องเสียงและลำโพง ซื้อเสียงเรียกนก ฯลฯ ทั้งหมดที่ท่านทำยังไม่ต้องซื้อจริงเช็คราคาของเล่นๆสนุกๆไม่ต้องเครียด ดูให้ครอบคลุมหมดทุกด้าน รวมตัวเลขออกมา ดูตัวเงินในบัญชีของท่าน มั่นใจและสบายใจขนาดไหนค่อยตัดสินใจ ที่ผมเสนอให้ท่านทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ท่านได้รู้เรื่องการทำบ้านนกแอ่นแบบรู้จริง ติดขัดตรงไหนไม่เข้าใจ ไม่ต้องอายโทรศัพท์ไปถามไปคุยได้ จะซื้อของที่ไหนกลัวว่าน่าจะแพงเกินไปโทรศัพท์ไปถามได้ กลุ่มผู้รักนกแอ่นยะลาซอกแซกหาของดีราคายุติธรรมเข้าถึงแหล่งขายส่งจริงๆ

ผมได้นำความลับที่ถูกปกปิดมานานมานำเสนอต่อท่าน อยากให้ท่านได้สัมผัสกับทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่ายิ่ง เช่น นกแอ่น นกแอ่นบินอยู่บนท้องฟ้าเหมือนเงินที่บินอยู่บนท้องฟ้า ท่านใช้ความรู้ที่ได้จาก Swiftlet Lover Blog ไปนำเงินเหล่านั้นมาสู่กระเป๋าของท่าน ผมจะมีความสุขมากๆหากรู้ว่าท่านสามารถมีเงินล้านได้จากสิ่งที่ผมนำมาเสนอ กุญแจทองสู่ความสำเร็จในการทำบ้านนกแอ่นผมได้มอบให้ท่านแล้ว โปรดนำไปเปิดสู่ความสำเร็จ ขอให้ทุกท่านโชคดีมีเงินล้านเร็วๆ

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Thursday, June 19, 2008

ไม้แนว-ไม้ขวางของไม้ตีรัง

บทความเรื่องไม้ตีรังได้เขียนไว้ในบทความก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว แต่ยังเกรงว่าบางท่านอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องไม้แนว-ไม้ขวาง จึงขอนำมาย้ำให้ท่านได้เห็นภาพชัดขึ้น เมื่อนกแอ่นบินเข้าสู่ช่องทางเข้า-ออก เพื่อเข้าสู่ภายในบ้านนกแอ่น ไม้ตีรังที่ตีขวางเส้นทางบินของนกแอ่นคือ"ไม้ขวาง" ส่วนไม้ตีรังที่ตีตามแนวเส้นทางบินของนกแอ่นคือ"ไม้แนว" เมื่อตีไม้ตีรังแบบไม้แนว-ไม้ขวาง ไม้ตีรังจะเป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมดังภาพร่างข้างบนทั้งสองภาพ การตีไม้รังแบบนี้เรียกว่า "Matrix System" หรือ "ระบบตารางแบบกล่อง"

ข้อดีของ"ระบบตารางแบบกล่อง" คือป้องกันแสงและลมได้ดี มีไม้ตีปิดทั้งสี่ด้าน ให้ผลผลิตรังนกแอ่นได้มากกว่าการตีไม้รังแบบแถว แต่ละกล่องสามารถให้ผลผลิตรังนกแอ่นสูงสุดถึง 35-40 รัง

ข้อเสียของ"ระบบตารางแบบกล่อง" คือจะมีรังนกแอ่นรังมุม 4 รัง รังมุมจะขายได้ราคาไม่ดี

มีข้อความจริงที่ได้จากการพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์แก่กันและกันในกลุ่มผู้รักนกแอ่นยะลา ได้ข้อความจริงว่า การที่เราตีไม้ปิดมุมรังเพื่อไม่ให้รังนกแอ่นเป็นรังมุม 90 องศา แต่เรากลับได้รังนกแอ่นซึ่งเป็นรังมุมป้านถึง 8 รัง และผู้รับซื้อรังนกแอ่นก็จะตีราคารังนกแอ่นมุมป้านเป็นรังนกแอ่นรังมุมเช่นกัน ขายได้ราคาไม่ดีเหมือนรังนกแอ่นรังมุม ดังนั้นถ้าผู้รับซื้อรังนกแอ่นยังยึดถือเกณฑ์อันนี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องตีไม้ปิดมุมรังให้เปลืองไม้ และเราก็จะมีรังนกแอ่นรังมุมเพียง 4 รังต่อกล่องเท่านั้นเอง

ผมเคยเขียนถึงผู้รับซื้อรังนกแอ่นในบทความก่อนๆว่า เขาจะมีเทคนิคในการกำหนดเพื่อให้ราคารังนกแอ่นของเราต่ำลงตลอด รังนกแอ่นรังมุมก็เป็นหนึ่งในข้ออ้าง ทั้งๆที่คุณภาพของรังนกแอ่นจะรังเล็ก รังใหญ่ รังมุมหรือไม่มุม คุณภาพของรังนกแอ่นก็ยังสูงสุดเหมือนเดิม ต้มหรือตุ๋นเมื่อไหร่ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม ทำอย่างไรถึงจะทำให้ราคารังนกแอ่นสูงได้สมกับคุณภาพและระยะเวลาที่รอคอยกว่าจะถึงช่วงเก็บเกี่ยว นี่คือคำถามที่ผู้ทำบ้านนกแอ่นทุกท่านจะต้องช่วยกันคิด เพื่อคงเสน่ห์แห่งความเย้ายวนของราคารังนกแอ่นให้อยู่คู่บ้านนกแอ่นตลอดไป
การตีไม้แนว-ไม้ขวางยังมีเรื่องที่ต้องให้ทำความเข้าใจอีกข้อหนึ่งคือ หากพื้นที่ภายในบ้านนกแอ่นของท่านมีบริเวณพื้นที่กว้าง พื้นที่ของไม้ตีรังก็ย่อมมีมากตามพื้นที่ ดังนั้นการตีไม้รังก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน โดยยึดการศึกษาแนวเส้นทางการบินของนกแอ่นที่ต้องทำวงบินขณะบินอยู่ภายในบ้านนกแอ่น การตีไม้แนว-ไม้ขวางจึงต้องมีการวางแผนให้ดี เพื่อให้การตีไม้รังได้ผลประโยชน์สูงสุด ไม้ขวางดักแนวเส้นทางวงบินของนกแอ่นได้มากที่สุด ทำให้นกแอ่นเข้าเกาะได้สะดวก ทำให้เกิดการใช้พื้นที่ของไม้ตีรังอย่างทั่วถึง ได้ผลผลิตรังนกแอ่นสูงสุด
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์





Monday, June 16, 2008

แนะนำหนังสือดี"รังนกแอ่น"

เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคามภูมิใจเสนอสู่สายตาของผู้อ่าน จากงานวิจัยของนักวิจัยสมัครเล่นนาม เกษม จันทร์ดำ ผู้ใช้ชีวิตอยู่ระหว่างคาบสมุทรอ่าวไทยและอันดามัน งานเขียนเรื่องนี้ได้ให้ความรู้ เปิดเผย ตีแผ่ เรื่องราวของการประกอบธุรกิจรังนกแอ่น ตามเกาะแก่งแหล่งที่ต่างๆ ทั้งชายฝั่งอันดามันและอ่าวไทยอย่างเข้มข้น ล้วงลึกและครอบคลุมทั้งมิติของประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม และผลกระทบทางด้านนิเวศวิทยาอย่างที่ไม่เคยปรากฏจากงานเขียนเล่มใดๆมาก่อน นี่คืองานค้นคว้าที่น่าสนใจ และทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

ข้อความข้างบนคือคำแนะนำหนังสือที่ปรากฏอยู่บนปกหลังของหนังสือ เป็นหนังสือที่อยากแนะนำให้ท่านซื้อเก็บไว้เป็นอย่างยิ่ง ราคา 220 บาท มีจำหน่ายที่ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศ ขอรับรองว่าดีมากๆ

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Friday, June 13, 2008

ความก้าวหน้าของSwiftlet Lover Blog.

สวัสดีท่านผู้รักนกแอ่นทุกท่าน

ผมเริ่มเขียนBlog.วันที่ 7 มีนาคม 2551 ถึงวันนี้ 13 มิถุนายน 2551 นับเวลาได้ 3 เดือนกับอีก 7 วัน ผู้เข้าเยี่ยมชมBlog.ที่เป็นคนไทยทั้งหมด 1,063 คน ผมในฐานะผู้เขียนบทความขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง มีกำลังใจลึกๆที่จะเขียนบทความเจาะลึกการทำบ้านนกแอ่นมานำเสนอต่อท่านตลอดไป

การทำBlog.นั้นไม่ยาก ยากที่การนำเสนอ บทความที่นำเสนอมีประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือไม่ ผมไม่ได้ทำเพื่อแข่งกับใคร ไม่ได้ทำเพื่อการค้าเป็นหลัก ใครซื้อก็ขาย ขายถูกๆให้ของดีๆไปใช้ ใครขอก็ให้ ให้ของที่ดีๆด้วย ปรึกษามาตอบให้หมดไม่มีปิดบัง นับถึงวันนี้ผมได้เพื่อนใหม่ทุกวัน ผมมีความสุขจริงๆ

เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2551 กลุ่มผู้ทำบ้านนกแอ่นยะลาได้มีโอกาสมาพบกันโดยผมเป็นแกนนำในการนัดหมาย ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ข้อผิดพลาด และได้ช่วยกันเสนอแนะแนวทางแก้ไขแก่กันและกัน ช่วยกันให้ทุกๆบ้านนกแอ่นประสบความสำเร็จสูงสุด มีแนวโน้มจะรวมตัวกันตั้งกลุ่ม "Yala Swiftlet Lover Group" หรือ "กลุ่มผู้รักนกแอ่นยะลา" ผมจึงมีความคิดอยากให้ทุกๆพื้นที่ ที่ทำบ้านนกแอ่นรวมกลุ่มกัน นกแอ่นยังชอบที่จะอยู่เป็นกลุ่มเป็นสังคมใหญ่ แต่ทำไมคนที่ทำบ้านนกแอ่นสำเร็จแล้วจึงไม่อยากจะบอกใครหรือให้คำแนะนำใคร กลัวคนอื่นจะมาแย่งนกแอ่นจากบ้านนกแอ่นของเขา กลัวอะไรกับการแบ่งปัน รวมกลุ่มกันดีกว่าแล้วแลกเปลี่ยนกันระหว่างกลุ่ม ไปพื้นที่ไหนที่มีกลุ่มผู้ทำบ้านนกแอ่น(ผู้รักนกแอ่น)จะได้ให้การต้อนรับ จังหวัดยะลายินดีให้การต้อนรับเสมอ

สนใจการรวมเป็นกลุ่มหรือตั้งกลุ่มและมีข้อเสนอแนะโปรดแนะนำด้วย อยากเห็น "Thailand Swiftlet Lover Group" หรือ "กลุ่มผู้รักนกแอ่นไทย" เป็นได้จริงๆ

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Tuesday, June 10, 2008

แมลงสาป:ศัตรูรบกวนที่ต้องรีบกำจัด

แมลงสาปเป็นศัตรูรบกวนที่อันตรายที่สุดในช่วงที่นกแอ่นกำลังทำรัง นอกจากกินขี้นกแอ่นแล้วยังชอบกินรังนกแอ่นอีกด้วย แมลงสาปจะได้กลิ่นขี้นกแอ่นและจะพยายามเข้าสู่บ้านนกแอ่น เมื่อเข้าสู่บ้านนกแอ่นแล้วจะหาที่ลับซ่อนตัว จะอยู่อย่างมีความสุข มีอาหารให้กินอย่างอุดมสมบูรณ์ จะขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว เพียงท่านเผลอปล่อยปละละเลยไม่หมั่นดูแล รังนกแอ่นอันมีค่าของท่านจะถูกกัดกิน นกแอ่นถูกรบกวนขนาดนี้จะทำให้การเพิ่มประชาการนกแอ่นช้า หากท่านยังไม่กำจัดแมลงสาป นกแอ่นก็อาจจะย้ายไปอยู่ที่อื่นได้

แมลงสาปเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ตั้งแต่ 250 ล้านปีจนถึงปัจจุบัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แสดงให้เห็นถึงความอดทนในการดำรงอยู่ ดังนั้นจึงมีอยู่ทั่วไป ถึงแม้ท่านจะกำจัดไปจนหมดจากบ้านนกแอ่นของท่านแล้วก็ยังต้องหมั่นตรวจสอบดูแลอยู่เรื่อยๆ เพราะจะมีชุดใหม่แอบเข้ามาอีก

การกำจัดแมลงสาปใช้กาวดักแมลงสาปหรือยาฆ่าแมลงชนิดที่ไม่มีกลิ่น และป้องกันแมลงสาปไม่ให้เข้าสู่บ้านนกแอ่นด้วยการใช้มุ้งลวด ตาข่าย หรือตะแกงปิดป้องกันไม่ให้แมลงสาปเข้ามาในบ้านนกแอ่น ซ่อมแซมรอยรั่วของบ้านนกแอ่นเพื่อทำลายแหล่งที่อยู่ของแมลงสาป หมั่นโกยขี้นกแอ่นอย่าให้มีมากเกินไป

สัตว์ทุกชนิดในโลกนี้ต่างพึ่งพาซึ่งกันและกัน ท่านเก็บรังนกแอ่นไปขายได้ราคาที่ดี นกแอ่นที่อยู่อาศัยในบ้านนกแอ่นของท่านอาจมีศัตรูต่างๆคอยรบกวน นกแอ่นก็ต้องพึ่งพาท่านให้ช่วยกำจัดให้ ท่านดูแลนกแอ่นดีเท่าไร นกแอ่นก็ยิ่งให้ท่านมากกว่า แมลงสาปจึงเป็นเรื่องเล็กๆสำหรับท่านที่จะต้องหาวิธีกำจัดให้หมดไป

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Sunday, June 8, 2008

แหล่งซื้อ-ขายไม้ตีรัง

การทำบ้านนกแอ่นในปัจจุบันยังคงใช้ไม้ตีรังที่เป็นไม้ธรรมชาติ ไม้ธรรมชาติชนิดต่างๆเริ่มหายาก เนื่องจากนโยบายปิดป่าเพื่ออนุรักษ์ป่าไม้ ยิ่งไม้สยาหินที่นิยมใช้ทำไม้ตีรังในบ้านนกแอ่นยิ่งหายากที่สุด ปัจจุบันไม้ส่วนใหญ่ที่ใช้ทำไม้ตีรังจะนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย และคิดว่าอีกไม่นานยิ่งจะหาซื้อยากกว่านี้ ราคาจะยิ่งแพงกว่านี้อีกมาก

แหล่งซื้อ-ขายไม้ตีรังเท่าที่ติดตามสอบถามได้ข้อมูลมาส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย มีผู้นำเข้ามาจำหน่ายไม่กี่ราย ส่วนใหญ่จะอยู่ทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ที่ อำเภอสุไหงโกลค จังหวัดนราธิวาส อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และที่จังหวัดยะลา จะส่งทั่วทุกจังหวัดที่มีการทำบ้านนกแอ่น ร้านค้าไม้เกือบทุกจังหวัดจะติดต่อถึงกัน ท่านสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ เขาจะสั่งให้ท่าน ราคาอาจจะแตกต่างกันบ้างขึ้นอยู่กับระยะทางบวกค่าขนส่ง ชนิดของไม้ก็อาจจะคละๆกันไป

ราคาไม้ในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณเมตรละ 60 - 220 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ โดยเป็นไม้หน้ากว้าง 6 นิ้ว หนา 1 นิ้ว ไม้ยิ่งเนื้อแข็งมากยิ่งแพงมาก ไม้ตีรังใช้ไม้แข็งกลางก็พอ เลือกชนิดที่ไม่มีกลิ่น มีใยบ้างยิ่งดี แต่ไม่ควรใช้ไม้เนื้ออ่อนเพราะจะพุและขึ้นราง่าย

หากท่านตัดสินใจจะทำบ้านนกแอ่นแล้วก็ต้องรีบหาไม้ตีรังเตรียมไว้ เพราะว่าบางครั้งไม้อาจจะขาดตลาด ท่านอาจต้องรอซื้อไม้นาน ทำให้การทำบ้านนกแอ่นของท่านเสร็จไม่ทันตามที่กำหนด มีผลต่อการคลาดเคลื่อนของฤดูผสมพันธุ์ของนกแอ่น การจัดการเรื่องเตรียมไม้ตีรังจึงมีความจำเป็น ผมเองมีประสบการณ์เรื่องนี้ เพราะต้องรอไม้ตีรังถึง 3 เดือนกว่าจะได้ไม้ครบตามจำนวนที่ต้องการ จึงไม่อยากให้ท่านต้องรอเหมือนผม

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Thursday, June 5, 2008

ความเสี่ยงในการลงทุนทำบ้านนกแอ่น

ในโลกนี้มีธุรกิจมากมายให้ท่านเลือกทำ ท่านจะทำธุรกิจใดต้องอยู่บนพื้นฐานของความสนใจความถนัด ไม่รู้ศึกษาได้ ไม่เป็นหัดได้ ทุกธุรกิจมีความเสี่ยงเหมือนกัน มากบ้างน้อยบาง สิ่งที่ท่านต้องเรียนรู้คือการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง การทำบ้านนกแอ่นก็เช่นกันย่อมมีความเสี่ยงเป็นธรรมดา สิ่งที่ท่านต้องหลีกเลี่ยงและสิ่งที่ท่านต้องทำในการทำบ้านนกแอ่นมีดังนี้:-

-1. การควบคุมอุณหภูมิ ต้องไม่ให้ร้อนหรือเย็นจนเกินไป เหมาะสมที่สุด 28 องศาเซลเซียส 23 - 25 องศาเซลเซียส เริ่มเสี่ยงเย็นเกินไป 31 - 35 องศาเซลเซียส เริ่มเสี่ยงร้อนเกินไป

-2. การควบคุมความชื้น ต้องไม่ให้ต่ำหรือสูงจนเกินไป เหมาะสมที่สุด 85% ความชื้นต่ำกว่า 65% รังนกแอ่นจะกรอบแตกง่าย ความชื้นสูงกว่า 90% ไม้ตีรังจะขึ้นราได้ง่าย

-3. การควบคุมเรื่องแสงสว่าง ต้องไม่ให้สว่างหรือมืดจนเกินไป ให้ค่าความสว่างได้ไม่เกิน 3 ลักซ์

-4. ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่น ต้องให้บินเข้า-ออกได้สะดวกที่สุด

-5. ต้องปราศจากศัตรูรบกวนใดๆทั้งสิ้น เช่น หนู ตุ๊กแก แมลงสาป นกแสก ฯลฯ

-6. ต้องใช้เสียงเรียกนกแอ่นที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีทั้งเสียงเรียกนอกและเสียงเรียกใน

-7. มีระบบระบายอากาศที่ดีภายในบ้านนกแอ่น เพื่อลดกลิ่นเหม็นอับที่เกินความจำเป็น

-8. การเก็บเกี่ยวรังนกแอ่นที่ผิดวิธีการ

-9. การใช้ไม้ตีรังที่ไม่เหมาะสม

-10. ช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นที่เล็กเกินไป

-11. การเลือกทำเลหรือสถานที่ที่จะทำบ้านนกแอ่นไม่เหมาะสมทุกองค์ประกอบ

-12. เจ้าของบ้านนกแอ่นไม่สนใจใฝ่เรียนรู้เรื่องนกแอ่นอย่างจริงจัง ไม่รักนกแอ่นจริง นกแอ่นก็เลยไม่รักท่านด้วย

จะเห็นว่าการทำบ้านนกแอ่นนั้นความเสี่ยงส่วนใหญ่เกิดจากการที่ไม่สามารถทำให้ได้ตามเงื่อนไขที่นกแอ่นต้องการ ส่วนการลงทุนด้านตัวเงินความเสี่ยงด้านนี้เกิดจากการที่ท่านใช้เงินทุนจากแหล่งใด ถ้าเป็นเงินที่ไม่ต้องกู้ยืมไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ท่านลงทุนไปทำใจไว้ส่วนหนึ่ง ไม่ประสบความสำเร็จก็ถือเสียว่าได้ลองทำดูแล้ว ถ้าต้องกู้เงินมาลงทุนต้องเสียดอกเบี้ย ท่านก็อาจจะคิดมาก กล้าๆ กลัวๆ แต่จะกลัวมากกว่ากล้า เพราะเรื่องเงินๆทองๆไม่เข้าใครออกใคร เป็นหนี้เป็นสินแล้วนอนไม่หลับ ดังนั้นท่านจึงต้องรอบคอบคิดวางแผนให้ดี รีบศึกษาหาข้อมูลให้ครบถ้วนทุกด้าน ประมวลข้อมูลทั้งหมดที่ได้ สรุปออกมาให้ท่านเองสามารถเห็นภาพความเสี่ยงได้ชัดเจน สุดท้ายฟันธงไปเลยว่าจะทำหรือไม่ทำ

การจ้างที่ปรึกษาให้จัดการให้ทุกอย่างก็มีความเสี่ยง หากท่านไม่คุยหรือตกลงให้ชัดเจน ค่าปรึกษาจะแพงมาก เมื่อท่านต้องจ่ายแพงท่านเองต้องหมดความกังวล ยกความกังวลของท่านไปให้ที่ปรึกษาแทน เมื่อทำตัวเป็นที่ปรึกษากินค่าปรึกษาแพงๆต้องรับรองผลสำเร็จได้ ต้องควบคุมงาน ควบคุมช่างแทนท่าน ต้องแนะนำถ่ายทอดความรู้ให้ท่าน จัดหาอุปกรณ์ต่างๆต้องไม่บวกกำไรจากท่านอีก การจ่ายค่าปรึกษาต้องไม่จ่ายเงินทั้งหมดเมื่องานเสร็จ จะต้องตกลงจ่ายแบบรับรองผล 70 : 30 หรือ 60 : 40 คือจ่าย 70% เมื่องานทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย อีก 30% จ่ายเมื่อเห็นรังนกแอ่นแล้วกี่รัง? มีนกแอ่นเข้าอยู่อาศัยกี่ตัว? ก็อยู่ที่ท่านจะคุยตกลงกัน

บทความนี้คงช่วยให้ท่านได้แนวทางในการลดความเสี่ยงในการลงทุนทำบ้านนกแอ่น ความท้าทาย ความเย้ายวนของธุรกิจบ้านนกแอ่นจะยังคงรุมเร้าความรู้สึกของท่านตลอด คำแนะนำที่ดีที่สุดที่ผมสามารถให้ท่านได้ในตอนนี้ หากท่านคิดว่าท่านอยากจะทำบ้านนกแอ่นให้สำเร็จ เริ่มนับหนึ่งวันนี้สัญญาว่าท่านจะขอเป็นคนดี คนที่มีศีลธรรมอยู่ในใจ จะรักครอบครัว จะหอมแก้มอาซ้อที่บ้านทุกวัน จะไม่ขอมีกิ๊ก จะรักลูกให้เหมือนนกแอ่นที่คอยจับกินแมลงแล้วนำกลับมาป้อนให้ลูกกิน ความดีทุกอย่างที่ทำได้ท่านจะทำ เฮ้อ! หนักไปหรือเปล่าพี่! ถ้าท่านทำได้ขอให้ท่านหมดความเสี่ยงมีแต่ความสำเร็จ

คิดอะไรไม่ออกเรื่องนกแอ่นโทรฯหาเทพชัย อริยะพันธุ์ ปรึกษาฟรีตลอดจ้า

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
ยะลา หรือ ยะลอ แปลว่า "แห" เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองตอนใต้ ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี ต่อมาได้ประกาศเป็นจังหวัด ตามระเบียบบริหารการปกครองใหม่เมื่อปี 2476 ปัจจุบันจังหวัดยะลามีพื้นที่ 4,521.077 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 376 หมู่บ้าน มีอำเภอเมือง อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศไทย ดั่งคำขวัญที่ว่า "ยะลา : ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน" อยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตร หรือโดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 1,440 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หลักเมืองยะลา

หลักเมืองยะลา
หลักเมืองยะลาสร้างขึ้นจากแนวความคิดของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมกับบรรดาข้าราชการซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมจังหวัดยะลาเป็นอาณาเขตหนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพิ่งแยกออกเป็นเมืองหนึ่งต่างหากในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2335) ที่ตั้งตัวเมืองยะลาเดิมมิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน แต่ได้โยกย้ายมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงให้ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 เวลา 10.30 น. ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางของเมืองยะลา ทั้งนี้เนื่องจากผังเมืองยะลาได้ออกแบบไว้เหมาะเจาะกันพอดีรอบๆวงเวียนหลักเมือง อันเป็นวงเวียนชั้นในสุดเป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองกำกับการตำรวจภูธร สำนักงานที่ดิน สำนักงานเกษตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่างๆของจังหวัดจะมารวมกันที่หลักเมือง

วัดคูหาภิมุข

วัดคูหาภิมุข
ถ้ำคูหาภิมุขตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง ไปตามเส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าวัดอีก 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ สร้างสมัยศรีวิชัยประมาณ 1,300 ปีเศษ ภายในมีถ้ำต่างๆเช่น ถ้ำมืด ถ้ำ ภปร. มีหินงอกหินย้อย และหยดน้ำไหลรินจากโขดหินสวยงามยิ่งนัก หยดเกร็ดเพชรระยิบระยับตา ซึ่งในปี 2539 ถ้ำคูหาภิมุขได้รับรางวัลการประกวดแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พระมหากัจจายนะ

พระมหากัจจายนะ
พระมหากัจจายนะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเมืองยะลา อยู่กลางแจ้งภายในวัด องค์ใหญ่สวยงาม หากหมั่นทำความดีเมื่อมาขอพรจากท่านมักจะประสบความสำเร็จ อยู่ห่างจากศาลากลางไปทางถนนสุขยางค์ทางออกมุ่งสู่อำเภอเบตงประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโรงเรียนตำรวจภูธร 9 (กองบัญชาการส่วนหน้า)

วัดพุทธาธิวาส

วัดพุทธาธิวาส
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ ณ วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขามีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ มหาเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฏีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เขื่อนบางลาง

เขื่อนบางลาง
เขื่อนบางลางในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองยะลาสู่อำเภอเบตง บนเส้นทางหลวงสายยะลา-เบตง สามารถแวะชมทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนบางลางได้ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา 58 กิโลเมตร และเข้าไปในตัวเขื่อนอีกประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเขื่อนบางลางสร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ทิวเขาสันกาลาคีรี สันปันน้ำระหว่างไทยกับมาเลเซียในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ด้วยฝีไม้ลายมือมนุษย์ทำให้พื้นที่บริเวณเหนือเขื่อน กลายสภาพเป็นทะเลสาปน้ำจืดกลางหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีจากพันธุ์พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดและภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวเรียงรายสลับซับซ้อนโอบล้อมอยู่ ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ มีอาคารบ้านพักตากอากาศ ห้องจัดประชุม ร้านอาหาร สนามเทนนิส สนามเปตอง สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล แพล่องชมทัศนียภาพ ไว้บริการให้ความสะดวกแก่ผู้มาเยือน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะเหมาะต่อการท่องเที่ยวแล้วเขื่อนบางลางยังคงคุณสมบัติของเขื่อนเอนกประสงค์ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกในภาคใต้ไว้ได้เช่นเดิมคือ ช่วยในการป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้าและการประมง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม,ติดต่อบ้านพักโทรฯ 0-7329-9237-8, 0-7329-7099 ล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาปเหนือเขื่อน โทรฯ 0-7328-1063-66 ต่อ 2291)

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
ยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินตามรอยพระบาทชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีอาหารการกินที่หลากหลายทั้ง ไทย จีน มุสลิม ผู้คนรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดเป็นเพียงภาพลวงตา อีกไม่นานก็จะหายไป เพราะเขาเองก็เบื่อเต็มทนแล้วเพราะตั้งแต่วันแรกที่หลงผิดชีวิตยังหาความสุขไม่ได้ จะขอกลับมาเป็นคนดีของสังคมเร็วๆนี้

อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ

อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์