Sunday, September 14, 2008

ความในใจของนกแอ่น

เราคือนกแอ่นตัวหนึ่งที่ถูกท่านเข้าใจและเห็นว่าเราผสมพันธุ์กันขณะบินบนท้องฟ้า เราไม่ว่าท่านหรอก เพราะว่าท่านคือมนุษย์ มนุษย์ที่สามารถเอาชนะนกตัวเล็กๆอย่างเราได้ ท่านสร้างบ้านให้พวกเราอยู่อาศัยเราก็ดีใจแล้ว ท่านเอารังของเราไปขายเราก็ไม่ว่าท่านหรอกขอให้เราได้ใช้เพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์ของเราก่อน ลูกของเราบินได้แล้วท่านเก็บรังไปก็ยุติธรรมดี แต่ต่อไปนี้คือความในใจของเราที่อยากบอกให้ท่านได้รับรู้ การที่ท่านจะสร้างบ้านให้เราอยู่อาศัย ท่านควรเข้าใจความต้องการของเราอย่างถูกต้อง ท่านจึงจะประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด

กลิ่นภายในบ้าน เราออกจากไข่วันแรก หลังจากแม่และพ่อของเราใช้เวลาช่วยกันกกไข่ประมาณ 22-28 วัน กลิ่นแรกที่เราได้สัมผัสคือกลิ่นขี้ของเราเอง เราจึงคุ้นเคยกับกลิ่นนี้มาก กลิ่นของถิ่นที่อยู่อาศัยของเรา กลิ่นนี้ฉุนมาก ดังนั้นหากท่านทำบ้านใหม่เพื่อให้เราเข้าอยู่อาศัย โปรดทำให้บ้านใหม่มีกลิ่นเหมือนกับบ้านเกิดที่เราจากมา แต่ถ้าบ้านเกิดของเรายังมีที่ว่างให้เราอยู่เราก็จะไม่มาอยู่บ้านใหม่ของท่าน เพราะเราอยากอยู่ใกล้พ่อแม่และกลุ่มของเรา เรารู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่เป็นกลุ่มใหญ่ ถ้าบ้านเกิดของเราพื้นที่เต็มเราอาจจะมาอยู่บ้านใหม่ของท่าน ที่บอกว่า "อาจจะมาอยู่" ก็เพราะว่าเรายังต้องตรวจสอบเงื่อนไขอื่นๆอีกหลายอย่าง แต่เรื่องกลิ่นถ้าท่านสามารถทำให้เหมือนบ้านเกิดเราได้ ท่านสอบผ่านข้อที่ 1

ช่องทางเข้า-ออกเป็นสิ่งที่เราอยากบอกท่านมาก ใหญ่หรือเล็กไม่ใช่เรื่องใหญ่ ให้พอเข้าได้สะดวก ที่สำคัญคือท่านพยายามที่จะทำให้ภายในบ้านมืด จึงพยายามทำพนังเพื่อบังแสง บางครั้งพนังชิดช่องทางเข้า-ออกจนเกินไปทำให้เราบินเข้า-ออกลำบาก บางบ้านทำแบบกล่องคอกสุนัข เจาะช่องให้เราต้องบินแบบมุดหัวลง ถ้ากว้างๆก็บินมุดลงสะดวก ถ้าแคบๆเราอยากให้ท่านมาเป็นนกแอ่นแบบเราดูบ้าง ไม่หัวก็ต้องปีกที่จะชนขอบ นกแอ่นอย่างเราไม่มีเบรคคอยช่วย หัวเกือบน๊อกปีกเกือบหักไม่ไหวจริงๆ ดังนั้นช่องทางเข้า-ออกท่านต้องทำให้ได้ขนาดที่พอเหมาะพอดี ให้เราบินเข้า-ออกได้อย่างสบายโดยไม่ต้องเจ็บตัว ตำแหน่งของช่องเข้า-ออกก็สำคัญ ต้องอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะพอดี ถ้าคิดไม่ออกว่าขนาดไหน แบบไหน หรือตำแหน่งไหนดี เราขอแนะนำให้ไปถามคุณเทพชัย Swiftlet Lover ดู ถ้าท่านทำได้ตามที่คุณเทพชัย Swiftlet Lover แนะนำ ท่านสอบผ่านข้อที่ 2

เสียงเรียกนกแอ่น พวกเราเป็นนกกลุ่มนกสังคมใหญ่ มีความรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่เป็นกลุ่มใหญ่ ดังนั้นเสียงเรียกนอกและเสียงเรียกในที่ท่านใช้เรียกเพื่อดึงดูดพวกเรา ต้องเป็นเสียงที่ใสชัดเจนบ่งบอกได้ถึงจำนวนนกที่มากมายอยู่ตรงนี้ เรารู้ว่าท่านหลอกเรา แต่หลอกแล้วต้องทำให้เราสบายใจเราถึงจะยอม ลำโพงเสียงเรียกในติดตั้งมากๆพวกเราชอบ พวกเราชอบทำรังใกล้ลำโพง อยากจะบอกความจริงกับท่านเรื่องเสียงเรียก เราไม่หลอกท่านแน่นอน แต่พวกท่านจะหลอกกันเอง ต่างอวดอ้างว่าเสียงเรียกของข้าดีกว่าคนอื่นๆ อันที่จริงเสียงเรียกเป็นเพียงตัวบ่งบอกให้พวกเราได้รู้ว่า ตรงนี้มีพวกของเราอยู่ซึ่งอันที่จริงไม่มีเลย เป็นเพียงเสียงเรียกเพื่อให้เราได้พบบ้านใหม่ ได้เข้าสำรวจบ้านใหม่ ถ้าเงื่อนไขบ้านใหม่ดีมากๆเราก็จะเข้าอยู่อาศัย ขอให้เสียงเรียกมาถึงหูของเราโดยไม่เพี้ยน ไม่แปลกแยก เป็นเสียงของพวกเราจริงๆ เพียวๆ ไม่ต้องJazz ไม่ต้องClassic ไม่ต้องRock ไม่ต้องมีEcho ถ้าท่านเลือกเสียงเรียกได้ตามนี้ ท่านสอบผ่านข้อที่ 3

ไม้ตีรัง เราชอบไม้ตีรังที่ไม่แข็งมากนัก แข็งกลางๆ ไม่มีกลิ่น มีใยบ้างเล็กน้อย กบไสพอขุยไม้ออกหมดไม่ต้องลื่นมากนัก เซาะร่องหลายๆร่องให้เราเกาะได้ง่าย ขนาดไม้กว้าง 6 - 8 นิ้ว หนา 1 นิ้ว ไม้สยาหินที่ท่านคิดว่าพวกเราชอบมากๆ ท่านไม่ต้องกังวล เดิมๆบรรพบุรุษของเราเกาะพนังหินปูนในถ้ำ เราเกาะและทำรังได้ทุกที่ ขอให้เกาะได้ง่ายรู้สึกปลอดภัยและมีที่เกาะมากๆพอที่จะให้เพื่อนๆของเราได้เกาะด้วยมากๆ ถ้าท่านทำได้ ท่านสอบผ่านข้อที่ 4

อุณหภูมิ ท่านรู้หรือไม่ เวลาเราบินอยู่บนท้องฟ้านั้น ถ้าวันที่อากาศร้อนเราก็จะร้อนเหมือนกับที่ท่านร้อน เราก็ถูกแดดส่องเหมือนกัน ดีว่าเรายังมีขนช่วยบังแดด ไม่งั้นหนังของเราคงเป็นนกปิ้งแน่ๆ เวลาเรากลับมาที่บ้านเราก็อยากให้บ้านที่เราอยู่อาศัยเย็นสบาย ไม่ร้อนและไม่เย็น ไม่ใช่กลับเข้ามาในบ้านแล้วยังกลับอยู่ในเตาไมโครเว็ป ข้างนอกแดดก็จะปิ้งเราอยู่แล้วกลับมาบ้านท่านก็จะปิ้งเราอีก ตกลงท่านอยากจะให้เราอยู่อาศัยที่บ้านของท่านหรือเปล่า ถ้าอยากให้เราอยู่อาศัย ช่วยทำอุณหภูมิให้ได้ระดับ 27 - 29 องศาฯ เราจะชอบมากๆ ขณะที่เราทำรัง รังของเราจะสวยงาม ขนของเราไม่หลุดร่วงง่าย รังของเราจะสะอาด ถ้าท่านทำได้ ท่านสอบผ่านข้อที่ 5

ความชื้น เราต้องการความชื้นที่ประมาณ 80 - 85 % ความชื้นทำให้ลูกของเราสบาย ลำตัวของลูกเราไม่แห้งจนเกินไป ไม่กระหายน้ำมาก มีเวลาพอให้เราออกไปหาอาหารและน้ำกลับมาให้ลูกของเราทัน ความชื้นทำให้รังของเราไม่กรอบ และยังช่วยลดอุณหภูมิได้ด้วย ถ้าท่านทำได้ ท่านสอบผ่านข้อที่ 6

ความมืด ความมืดทำให้เรารู้สึกปลอดภัย ท่านทำให้มืดที่สุดเท่าที่ท่านทำได้ มีแสงสว่างบ้างตรงช่องทางเข้า-ออก ไม่เป็นไร ตราบใดที่เรารู้สึกว่าปลอดภัย แสงสว่างที่พอมีบ้างเรายังพอรับได้ ขอให้มีส่วนที่มืดมากๆกว่าส่วนที่สว่างก็เป็นอันใช้ได้ ทำได้แค่นี้ก็ถือว่าท่านสอบผ่านข้อที่ 7

ศัตรูรบกวนทุกชนิด เราเป็นนกตัวเล็กๆไม่ชอบถูกใครรังแก เรารักลูกของเรามาก ท่านรักลูกของท่านอย่างไร เราก็รักลูกของเราอย่างนั้น เราจะโกรธมากถ้าใครมาทำร้ายลูกของเรา เราจะไม่อยู่อาศัยที่บ้านของท่าน ถ้าเราค้นพบว่ามีศัตรูที่จะรบกวนเรา เราจะหันหลังให้กับบ้านของท่านตลอดกาล ถ้าท่านจัดการศัตรูที่ชอบรบกวนเราได้ทั้งหมด ท่านสอบผ่านข้อที่ 8

ทำเลที่ตั้งของบ้าน เราชอบพื้นที่ที่ใกล้แหล่งอาหารของเรา ป่าที่สมบูรณ์ต้องไม่ไกลจากบ้านที่จะให้เราอยู่อาศัยมากนัก มีพืชสวนพืชไร่ มีแม่น้ำลำคลอง มีแหล่งน้ำสะอาดให้เราได้โฉบเล่น อาบ กิน และล้างตัวไร พื้นที่เหล่านี้พวกเราจะบินมาบ่อยๆ ท่านจะหลอกจะเรียกพวกเราได้ง่าย ถ้าท่านทำบ้านให้เราอยู่ในพื้นที่แบบนี้ ท่านสอบผ่านข้อที่ 9

ขนาดของตัวบ้าน เราไม่เกี่ยงว่าบ้านเล็กบ้านใหญ่ อยู่ที่ตัวท่าน ขอเพียงแต่ท่านต้องนำสิ่งที่ท่านสอบผ่านทั้ง 9 ข้อ ให้มารวมอยู่ในบ้านที่ท่านอยากจะให้พวกเราเข้าอยู่อาศัยอย่างลงตัวทุกเงื่อนไข ที่สำคัญคือภายในตัวบ้านต้องกว้างพอให้เราทำวงบินได้สะดวก จะวนซ้ายวนขวาล้วนมีอิสระตามใจของเรา จะมุดจะเหินล้วนกว้างขวางดังใจ จะเข้าจะออกล้วนทำได้ตามใจนึกของเรา ถ้าท่านทำได้ดังนี้ ท่านสอบผ่านข้อที่ 10

เราได้บอกความในใจของเราแล้ว หากท่านสอบผ่านทั้ง 10 ข้อ ท่านคงสบายใจ เปิดบ้านวันไหนคงใจจดใจจ่อนั่งรอดูว่าเราจะมาวนเวียนมาตอมลำโพงเสียงเรียกนอกหรือไม่ พวกเรามามากๆท่านดีใจสุดๆ วันไหนพวกเรามาน้อยๆหรือไม่มาเลย ท่านจะหงอยไปเลย แต่ท่านไม่ต้องตกใจหรอก ท่านสอบผ่านทั้ง 10 ข้อ โอกาสที่พวกเราจะเข้าอยู่อาศัยนั้นมีสูง ขอเพียงแต่ให้พวกเราได้มีโอกาสสำรวจดูเงื่อนไขต่างๆ และให้เวลาแก่พวกเราบ้าง จะช้าจะเร็วอยู่ที่ท่านทำบ้านได้สมบูรณ์ระดับไหน การทำบ้านให้พวกเราอยู่ท่านต้องอดทน ใช่ว่าจะสำเร็จในวันสองวัน ถ้าพวกเราตัดสินใจเข้าอยู่แล้วจริงๆ ไม่กี่วันท่านจะเห็นรอยตั้งคิ้วของพวกเรา แค่เห็นรอยตั้งคิ้วท่านก็จะยิ้มออก ผ่านไปอีกระยะรังก็สมบูรณ์พร้อมวางไข่ และดำเนินไปตามระยะของการขยายเผ่าพันธุ์ต่อๆไป ประชาการของเราก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนท่านพึงพอใจ

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีสองด้านเสมอ มีสำเร็จก็มีล้มเหลว ท่านสอบผ่านทั้ง 10 ข้อ มีทั้งผู้ที่ประสบความสำเร็จและผู้ที่ล้มเหลว อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างผู้ที่ประสบความสำเร็จและผู้ที่ล้มเหลว โชคเป็นส่วนหนึ่งหรือไม่? ความเป็นคนใจบุญสุนทานมีส่วนหรื่อไม่? ความเป็นคนเห็นแก่ตัวจิตใจคับแคบมีส่วนหรือไม่? ฯลฯ และ ??????? เราไม่สามารถบอกท่านได้ในข้อนี้ ท่านต้องบอกตัวท่านเองว่าท่านเป็นคนแบบไหน ท่านย่อมรู้จักตัวท่านเองดีกว่าใครๆ ขอให้ท่านโชคดี

นกแอ่นบอกให้เขียน นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

1 comment:

Unknown said...

อยากมีโรงเรียนสอนภาษานกแอ่น อยากคุยทักทายกับพวกเค้าบ้าง อยากรู้ว่าเวลาเค้าบินส่งเสียงเค้าคุยอะไรกัน555😅

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
ยะลา หรือ ยะลอ แปลว่า "แห" เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองตอนใต้ ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี ต่อมาได้ประกาศเป็นจังหวัด ตามระเบียบบริหารการปกครองใหม่เมื่อปี 2476 ปัจจุบันจังหวัดยะลามีพื้นที่ 4,521.077 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 376 หมู่บ้าน มีอำเภอเมือง อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศไทย ดั่งคำขวัญที่ว่า "ยะลา : ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน" อยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตร หรือโดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 1,440 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หลักเมืองยะลา

หลักเมืองยะลา
หลักเมืองยะลาสร้างขึ้นจากแนวความคิดของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมกับบรรดาข้าราชการซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมจังหวัดยะลาเป็นอาณาเขตหนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพิ่งแยกออกเป็นเมืองหนึ่งต่างหากในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2335) ที่ตั้งตัวเมืองยะลาเดิมมิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน แต่ได้โยกย้ายมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงให้ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 เวลา 10.30 น. ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางของเมืองยะลา ทั้งนี้เนื่องจากผังเมืองยะลาได้ออกแบบไว้เหมาะเจาะกันพอดีรอบๆวงเวียนหลักเมือง อันเป็นวงเวียนชั้นในสุดเป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองกำกับการตำรวจภูธร สำนักงานที่ดิน สำนักงานเกษตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่างๆของจังหวัดจะมารวมกันที่หลักเมือง

วัดคูหาภิมุข

วัดคูหาภิมุข
ถ้ำคูหาภิมุขตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง ไปตามเส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าวัดอีก 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ สร้างสมัยศรีวิชัยประมาณ 1,300 ปีเศษ ภายในมีถ้ำต่างๆเช่น ถ้ำมืด ถ้ำ ภปร. มีหินงอกหินย้อย และหยดน้ำไหลรินจากโขดหินสวยงามยิ่งนัก หยดเกร็ดเพชรระยิบระยับตา ซึ่งในปี 2539 ถ้ำคูหาภิมุขได้รับรางวัลการประกวดแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พระมหากัจจายนะ

พระมหากัจจายนะ
พระมหากัจจายนะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเมืองยะลา อยู่กลางแจ้งภายในวัด องค์ใหญ่สวยงาม หากหมั่นทำความดีเมื่อมาขอพรจากท่านมักจะประสบความสำเร็จ อยู่ห่างจากศาลากลางไปทางถนนสุขยางค์ทางออกมุ่งสู่อำเภอเบตงประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโรงเรียนตำรวจภูธร 9 (กองบัญชาการส่วนหน้า)

วัดพุทธาธิวาส

วัดพุทธาธิวาส
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ ณ วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขามีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ มหาเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฏีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เขื่อนบางลาง

เขื่อนบางลาง
เขื่อนบางลางในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองยะลาสู่อำเภอเบตง บนเส้นทางหลวงสายยะลา-เบตง สามารถแวะชมทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนบางลางได้ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา 58 กิโลเมตร และเข้าไปในตัวเขื่อนอีกประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเขื่อนบางลางสร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ทิวเขาสันกาลาคีรี สันปันน้ำระหว่างไทยกับมาเลเซียในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ด้วยฝีไม้ลายมือมนุษย์ทำให้พื้นที่บริเวณเหนือเขื่อน กลายสภาพเป็นทะเลสาปน้ำจืดกลางหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีจากพันธุ์พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดและภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวเรียงรายสลับซับซ้อนโอบล้อมอยู่ ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ มีอาคารบ้านพักตากอากาศ ห้องจัดประชุม ร้านอาหาร สนามเทนนิส สนามเปตอง สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล แพล่องชมทัศนียภาพ ไว้บริการให้ความสะดวกแก่ผู้มาเยือน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะเหมาะต่อการท่องเที่ยวแล้วเขื่อนบางลางยังคงคุณสมบัติของเขื่อนเอนกประสงค์ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกในภาคใต้ไว้ได้เช่นเดิมคือ ช่วยในการป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้าและการประมง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม,ติดต่อบ้านพักโทรฯ 0-7329-9237-8, 0-7329-7099 ล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาปเหนือเขื่อน โทรฯ 0-7328-1063-66 ต่อ 2291)

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
ยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินตามรอยพระบาทชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีอาหารการกินที่หลากหลายทั้ง ไทย จีน มุสลิม ผู้คนรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดเป็นเพียงภาพลวงตา อีกไม่นานก็จะหายไป เพราะเขาเองก็เบื่อเต็มทนแล้วเพราะตั้งแต่วันแรกที่หลงผิดชีวิตยังหาความสุขไม่ได้ จะขอกลับมาเป็นคนดีของสังคมเร็วๆนี้

อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ

อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์