Thursday, March 13, 2008

การดัดแปลงอาคารบ้านเรือนให้เป็นบ้านนกแอ่น

หลายๆท่านฝันที่จะมีบ้านนกแอ่นเป็นของตนเองสักหลัง แต่คิดแล้วคิดอีกก็ยังไม่สำเร็จสักที มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ไม่สามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ การซื้อบ้านซักหลังต้องใช้เงินลงทุนมาก จะเอาบ้านที่อยู่เองให้นกอยู่แล้วตัวเองจะไปอยู่ที่ไหน หรืออยู่ด้วยกัน นกอยู่ข้างบนฉันอยู่ข้างล่าง กู้ธนาคารก็กลัวเป็นหนี้ ไม่รู้ทำแล้วจะสำเร็จหรือเปล่า กลัวๆกล้าๆอยู่นั่นแหละ เพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียงจะบ่นรำคาญเสียงเรียกนกหรือเปล่า ฯลฯ คิด คิด คิด ไม่คิดดีกว่า
สำหรับท่านที่ตัดสินใจยกบ้านให้นกแอ่นอยู่ จะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์ก็ดี ในหัวข้อนี้จะยังไม่กล่าวถึงบ้านนกแอ่นแบบอาคารเฉพาะ ตึกนกแอ่น หรือ คอนโดนกแอ่น เพราะอาคารเฉพาะง่ายต่อการออกแบบ การกำหนดรายละเอียดต่างๆ การดัดแปลงอาคารบ้านเรือนให้เป็นบ้านนกแอ่นถูกบังคังด้วยโครงสร้างเดิมของบ้าน เช่น ด้านหน้าบ้านติดถนนที่จอแจ มีรถพลุกพล่าน ด้านหลังบ้านเป็นตรอกเล็กๆมีเนื้อที่แคบๆและชนกับหลังบ้านของคนอื่น ด้านข้างทั้ง 2 ด้านก็เป็นบ้านคน ถ้าเจอปัญหาเช่นนี้ ถึงแม้บ้านที่จะดัดแปลงเป็นบ้านนกแอ่นจะอยู่ในทำเลที่ดีแล้ว ก็เป็นอุปสรรคในการดัดแปลง ทำให้การทำทางเข้า-ออกของนก Entrance Hole หรือ In - Out Hole ต้องต่อเติม ดัดแปลง ให้เข้าทางหลังคาด้านบน(ดังรูปซ้ายล่าง) ถ้าเป็นบ้านหัวมุมถนน หรือ บ้านเดี่ยวจะง่ายต่อการดัดแปลง(รูปขวาล่างและรูปบน)
การดัดแปลงอาคารบ้านเรือนเป็นบ้านนกแอ่นคือการทำให้บ้านที่ดัดแปลงมีสภาพใกล้เคียงกับสภาพภายในถ้ำที่นกแอ่นอาศัยอยู่ตามธรรมชาติมากที่สุด การดัดแปลงที่สำคัญมีดังนี้:-
1. ปิดช่องที่แสงสว่างสามารถเข้าได้ทั้งหมด เช่น ช่องหน้าต่าง ช่องลม ช่องกระจก ยกเว้นช่องที่จะกำหนดเป็นช่องทางเข้า-ออกของนก และช่องระบายอากาศชนิดที่แสงสว่างเข้าไม่ได้
2. ตีรังไม้สำหรับนกแอ่นเกาะและทำรัง โดยใช้ไม้หนา 1 นิ้ว กว้าง 6 - 8 นิ้ว ยาวตามความกว้างของอาคาร ยึดให้แข็งแรงตั้งฉากกับเพดาน เซาะร่องบนไม้ขนาดเล็กกว้าง 2 มิลฯ ลึก 2 มิลฯ 3 -4 ร่อง ห่างกันร่องละ 1 นิ้ว โดยเริ่มจากด้านล่าง ด้านที่ไม่ติดกับเพดาน รังไม้แต่ละแถวห่างกัน 30-40 เซนติเมตร
3. ติดตั้งรางน้ำขนาดพอเหมาะรอบๆห้องเพื่อปรับอุณหภูมิของห้องให้ได้หรือใกล้เคียง 28 องศาเซนเซียส หรือติดตั้งพัดลมขนาดเล็กเพื่อเป่าน้ำในรางอีกก็ได้
4. ติดตั้งเครื่องทำความชื้น Humidifier เพื่อเพิ่มความชื้นให้ได้ประมาณ 75%-85%
5. ติดตั้งเครื่องเสียงและลำโพงเพื่อทำเสียงเรียกนก ทั้งเสียงเรียกนอกและเสียงเรียกใน ควรแยกเครื่องเสียงชุดเสียงเรียกนอกและชุดเสียงเรียกในคนละชุดกัน
6. ปรับปรุงผนังอาคารด้านที่โดนความร้อนอย่าให้ความร้อนระบายเข้าสู่ภายในรัง โดยใช้ฉนวนกันความร้อนหรือวัสดุต่างๆที่เหมาะสม รวมถึงหลังคาของอาคารด้วย
7. ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายนอกบ้านนกแอ่นให้ดูสวยงามสะอาดตา ไม่ทำลายบรรยากาศของเมืองที่สวยงาม
นี่คือส่วนที่ดัดแปลงที่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดของแต่ละเรื่อง ในหัวข้อต่อๆไปจะลงรายละเอียดแต่ละเรื่องให้เห็นภาพและเข้าใจมากกว่านี้
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์







No comments:

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
ยะลา หรือ ยะลอ แปลว่า "แห" เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองตอนใต้ ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี ต่อมาได้ประกาศเป็นจังหวัด ตามระเบียบบริหารการปกครองใหม่เมื่อปี 2476 ปัจจุบันจังหวัดยะลามีพื้นที่ 4,521.077 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 376 หมู่บ้าน มีอำเภอเมือง อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศไทย ดั่งคำขวัญที่ว่า "ยะลา : ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน" อยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตร หรือโดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 1,440 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หลักเมืองยะลา

หลักเมืองยะลา
หลักเมืองยะลาสร้างขึ้นจากแนวความคิดของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมกับบรรดาข้าราชการซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมจังหวัดยะลาเป็นอาณาเขตหนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพิ่งแยกออกเป็นเมืองหนึ่งต่างหากในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2335) ที่ตั้งตัวเมืองยะลาเดิมมิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน แต่ได้โยกย้ายมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงให้ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 เวลา 10.30 น. ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางของเมืองยะลา ทั้งนี้เนื่องจากผังเมืองยะลาได้ออกแบบไว้เหมาะเจาะกันพอดีรอบๆวงเวียนหลักเมือง อันเป็นวงเวียนชั้นในสุดเป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองกำกับการตำรวจภูธร สำนักงานที่ดิน สำนักงานเกษตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่างๆของจังหวัดจะมารวมกันที่หลักเมือง

วัดคูหาภิมุข

วัดคูหาภิมุข
ถ้ำคูหาภิมุขตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง ไปตามเส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าวัดอีก 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ สร้างสมัยศรีวิชัยประมาณ 1,300 ปีเศษ ภายในมีถ้ำต่างๆเช่น ถ้ำมืด ถ้ำ ภปร. มีหินงอกหินย้อย และหยดน้ำไหลรินจากโขดหินสวยงามยิ่งนัก หยดเกร็ดเพชรระยิบระยับตา ซึ่งในปี 2539 ถ้ำคูหาภิมุขได้รับรางวัลการประกวดแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พระมหากัจจายนะ

พระมหากัจจายนะ
พระมหากัจจายนะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเมืองยะลา อยู่กลางแจ้งภายในวัด องค์ใหญ่สวยงาม หากหมั่นทำความดีเมื่อมาขอพรจากท่านมักจะประสบความสำเร็จ อยู่ห่างจากศาลากลางไปทางถนนสุขยางค์ทางออกมุ่งสู่อำเภอเบตงประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโรงเรียนตำรวจภูธร 9 (กองบัญชาการส่วนหน้า)

วัดพุทธาธิวาส

วัดพุทธาธิวาส
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ ณ วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขามีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ มหาเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฏีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เขื่อนบางลาง

เขื่อนบางลาง
เขื่อนบางลางในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองยะลาสู่อำเภอเบตง บนเส้นทางหลวงสายยะลา-เบตง สามารถแวะชมทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนบางลางได้ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา 58 กิโลเมตร และเข้าไปในตัวเขื่อนอีกประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเขื่อนบางลางสร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ทิวเขาสันกาลาคีรี สันปันน้ำระหว่างไทยกับมาเลเซียในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ด้วยฝีไม้ลายมือมนุษย์ทำให้พื้นที่บริเวณเหนือเขื่อน กลายสภาพเป็นทะเลสาปน้ำจืดกลางหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีจากพันธุ์พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดและภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวเรียงรายสลับซับซ้อนโอบล้อมอยู่ ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ มีอาคารบ้านพักตากอากาศ ห้องจัดประชุม ร้านอาหาร สนามเทนนิส สนามเปตอง สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล แพล่องชมทัศนียภาพ ไว้บริการให้ความสะดวกแก่ผู้มาเยือน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะเหมาะต่อการท่องเที่ยวแล้วเขื่อนบางลางยังคงคุณสมบัติของเขื่อนเอนกประสงค์ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกในภาคใต้ไว้ได้เช่นเดิมคือ ช่วยในการป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้าและการประมง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม,ติดต่อบ้านพักโทรฯ 0-7329-9237-8, 0-7329-7099 ล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาปเหนือเขื่อน โทรฯ 0-7328-1063-66 ต่อ 2291)

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
ยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินตามรอยพระบาทชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีอาหารการกินที่หลากหลายทั้ง ไทย จีน มุสลิม ผู้คนรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดเป็นเพียงภาพลวงตา อีกไม่นานก็จะหายไป เพราะเขาเองก็เบื่อเต็มทนแล้วเพราะตั้งแต่วันแรกที่หลงผิดชีวิตยังหาความสุขไม่ได้ จะขอกลับมาเป็นคนดีของสังคมเร็วๆนี้

อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ

อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์