Friday, May 1, 2009

บ้านนกแอ่นยิ่งมากนกแอ่นยิ่งเพิ่มขึ้น จริงหรือไม่?

มีข้อสงสัยที่พูดคุยกันมากในหมู่ผู้ทำบ้านนกแอ่นว่า ยิ่งมีบ้านนกแอ่นใหม่เพิ่มขึ้นมากๆ ยิ่งทำให้แต่ละบ้านนกแอ่นได้นกแอ่นน้อยลง และนกแอ่นเพิ่มขึ้นช้า

ความคิดนี้อาจจะผิดหรือไม่จริงก็ได้ ถ้าผู้คิดเป็นผู้เห็นแก่ตัวหรือมีจิตใจคับแคบ เราอยู่ในโลกของความมีอิสระ ไม่สามารถที่จะไปหยุดให้ผู้อื่นครอบครองสิ่งต่างๆได้ นกแอ่นถูกธรรมชาติสร้างมา หรือถ้าเชื่ออีกแบบก็ถูกพระเจ้าส่งมาให้แก่ทุกท่าน ดังนั้นทุกท่านจึงสามารถครอบครองได้ เรียกได้ ทำบ้านนกแอ่นได้ทุกท่าน แล้วแต่ว่าท่านมีกำลังความสามารถหรือไม่ เท่านั้นเอง!

ท่านที่ทำบ้านนกแอ่นและสามารถทำได้ตามเงื่อนไขที่นกแอ่นชื่นชอบทุกประการ สามารถเพิ่มประชากรนกแอ่นได้ตลอดเวลา ยิ่งเวลาผ่านไปนกแอ่นยิ่งเพิ่มขึ้น สำหรับคนทำบ้านนกแอ่น "เวลา คือ เงิน" นั่นเอง

ต่อไปนี้คือการคำนวณอย่างง่ายๆ ให้ท่านเห็นว่านกแอ่นเพิ่มประชากรอย่างไร และรองรับบ้านนกแอ่นที่เพิ่มขึ้นได้เท่าไหร่ ให้ท่านคิดตามเล่นๆ อย่าเพิ่งเซ็ง อย่าเพิ่งเครียด

ก่อนอื่นต้องตั้งสมมุติฐานต่อไปนี้:-

1. ขนาดของบ้านนกแอ่นพื้นฐาน 2 ชั้น ขนาด 4 x 25 เมตร = 100 x 2 = 200 ตารางเมตร

2. บ้านนกแอ่นที่สำเร็จสูงสุด พื้นที่ 1 ตารางเมตร รองรับรังนกแอ่นได้ประมาณ 100 รัง ทุกๆ 4 เดือน

3. ลูกนกแอ่นที่เกิดใหม่ไม่สามารถอยู่รอดได้ประมาณ 10 % (ด้วยอุบัติเหตุ ศัตรูรบกวนและเหตุอื่นๆ)

4. 1 คู่ นกแอ่น วางไข่ 2 ฟอง ต่อครั้ง 1 ปี 3 ครั้ง (เพิ่มขึ้น 3 เท่าทุกปี)

5. บ้านนกแอ่นที่ล้มเหลวไม่มีการปรับปรุงแก้ไข

6. มีอาหารของนกแอ่นอย่างสมบูรณ์เพียงพอ

การคำนวณบ้านนกแอ่นที่สร้างเพิ่มขึ้นทุกๆปีเพื่อรองรับปริมาณนกแอ่นที่เพิ่มขึ้น

จากสถิติตัวเลขบ้านนกแอ่นในประเทศไทยจนถึงปัจจุบันประมาณ 80,000 หลัง บ้านนกแอ่นที่สำเร็จจริงๆ ประมาณ 30 % เท่ากับ ประมาณ 24,000 หลัง

ดังนั้นตัวเลขโดยประมาณ จำนวนประชากรนกแอ่นในประเทศไทยที่อาศัยอยู่ในบ้านนกแอ่น

= 24,000 x 20,000 = 480,000,000 คู่

ประมาณการณ์ประชากรนกแอ่นที่คาดหวังในปีที่ 1

= 480,000,000 + 480,000,000 x 3 = 1,440,000,000 ลดลง 10 % = 1,296,000,000 คู่
= 480,000,000 + 1,296,000,000 = 1,776,000,000 คู่

จำนวนบ้านนกแอ่นใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับประชากรนกแอ่นที่เพิ่มขึ้นในปีที่ 1

= 1,776,000,000 - 480,000,000 = 1,296,000,000 / 20,000 = 64,800 หลัง

ประมาณการณ์ประชากรนกแอ่นที่คาดหวังในปีที่ 2

= 1,776,000,000 + 1,776,000,000 x 3 = 5,328,000,000 ลดลง 10 % = 4,795,200,000 คู่
= 1,776,000,000 + 4,795,200,000 = 6,571,200,000 คู่

จำนวนบ้านนกแอ่นใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับประชากรนกแอ่นที่เพิ่มขึ้นในปีที่ 2

= 6,571,200,000 - 1,776,000,000 = 4,795,200,000 / 20,000 = 239,700 หลัง

ประมาณการณ์ประชากรนกแอ่นที่คาดหวังในปีที่ 3

= 6,571,200,000 + 6,571,200,000 x 3 = 19,713,600,000 ลดลง 10 % = 17,742,240,000 คู่
= 6,571,200,000 + 17,742,240,000 = 24,313,440,000 คู่

จำนวนบ้านนกแอ่นใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับประชากรนกแอ่นที่เพิ่มขึ้นในปีที่ 3

= 24,313,440,000 - 6,571,200,000 = 17,742,240,000 / 20,000 = 887,112 หลัง

ข้อเท็จจริงที่ค้นพบ

1. ยิ่งบ้านนกแอ่นมีมากเท่าไหร่ยิ่งมีความสุข ยิ่งท่านสร้างมากเท่าไหร่ ประชากรนกแอ่นยิ่งเพิ่มมากขึ้น

2. ประชากรนกแอ่นมากมายเพียงพอให้ท่านแบ่งปันกันอย่างพอเพียง

3. หากจำนวนบ้านนกแอ่นสร้างได้ไม่รวดเร็วเพียงพอกับประชากรนกแอ่นที่เพิ่มขึ้น นกแอ่นก็จะย้ายถิ่นไปสู่พื้นที่อื่น

จะเห็นว่าผมลองแบ่งนกแอ่นให้ท่านแบบใจกว้างๆ บ้านละ 20,000 คู่ ยังได้จำนวนบ้านนกแอ่นที่ต้องสร้างใหม่ในปีที่ 1 ถึง 64,800 หลัง ยังไม่ต้องพูดถึงปีที่ 2 และ 3 แล้วนี่จะสร้างกันทันหรือไม่ ดังนั้นจึงอย่าไปกลัวเลยว่าคนอื่นทำบ้านนกแอ่นแล้วจะมาแย่งลูกนกแอ่นจากเรา ใจกว้างๆแบบมหาสมุทรไปเลยครับ

บทความนี้อาจไม่เป็นจริงก็ได้โปรดใช้การพิจารณา ผู้ทำบ้านนกแอ่นควรรอบคอบอย่าเชื่อใครง่ายๆ ขอให้ทุกท่านโชคดีมีความสุข

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
ยะลา หรือ ยะลอ แปลว่า "แห" เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองตอนใต้ ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี ต่อมาได้ประกาศเป็นจังหวัด ตามระเบียบบริหารการปกครองใหม่เมื่อปี 2476 ปัจจุบันจังหวัดยะลามีพื้นที่ 4,521.077 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 376 หมู่บ้าน มีอำเภอเมือง อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศไทย ดั่งคำขวัญที่ว่า "ยะลา : ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน" อยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตร หรือโดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 1,440 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หลักเมืองยะลา

หลักเมืองยะลา
หลักเมืองยะลาสร้างขึ้นจากแนวความคิดของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมกับบรรดาข้าราชการซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมจังหวัดยะลาเป็นอาณาเขตหนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพิ่งแยกออกเป็นเมืองหนึ่งต่างหากในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2335) ที่ตั้งตัวเมืองยะลาเดิมมิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน แต่ได้โยกย้ายมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงให้ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 เวลา 10.30 น. ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางของเมืองยะลา ทั้งนี้เนื่องจากผังเมืองยะลาได้ออกแบบไว้เหมาะเจาะกันพอดีรอบๆวงเวียนหลักเมือง อันเป็นวงเวียนชั้นในสุดเป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองกำกับการตำรวจภูธร สำนักงานที่ดิน สำนักงานเกษตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่างๆของจังหวัดจะมารวมกันที่หลักเมือง

วัดคูหาภิมุข

วัดคูหาภิมุข
ถ้ำคูหาภิมุขตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง ไปตามเส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าวัดอีก 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ สร้างสมัยศรีวิชัยประมาณ 1,300 ปีเศษ ภายในมีถ้ำต่างๆเช่น ถ้ำมืด ถ้ำ ภปร. มีหินงอกหินย้อย และหยดน้ำไหลรินจากโขดหินสวยงามยิ่งนัก หยดเกร็ดเพชรระยิบระยับตา ซึ่งในปี 2539 ถ้ำคูหาภิมุขได้รับรางวัลการประกวดแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พระมหากัจจายนะ

พระมหากัจจายนะ
พระมหากัจจายนะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเมืองยะลา อยู่กลางแจ้งภายในวัด องค์ใหญ่สวยงาม หากหมั่นทำความดีเมื่อมาขอพรจากท่านมักจะประสบความสำเร็จ อยู่ห่างจากศาลากลางไปทางถนนสุขยางค์ทางออกมุ่งสู่อำเภอเบตงประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโรงเรียนตำรวจภูธร 9 (กองบัญชาการส่วนหน้า)

วัดพุทธาธิวาส

วัดพุทธาธิวาส
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ ณ วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขามีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ มหาเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฏีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เขื่อนบางลาง

เขื่อนบางลาง
เขื่อนบางลางในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองยะลาสู่อำเภอเบตง บนเส้นทางหลวงสายยะลา-เบตง สามารถแวะชมทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนบางลางได้ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา 58 กิโลเมตร และเข้าไปในตัวเขื่อนอีกประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเขื่อนบางลางสร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ทิวเขาสันกาลาคีรี สันปันน้ำระหว่างไทยกับมาเลเซียในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ด้วยฝีไม้ลายมือมนุษย์ทำให้พื้นที่บริเวณเหนือเขื่อน กลายสภาพเป็นทะเลสาปน้ำจืดกลางหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีจากพันธุ์พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดและภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวเรียงรายสลับซับซ้อนโอบล้อมอยู่ ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ มีอาคารบ้านพักตากอากาศ ห้องจัดประชุม ร้านอาหาร สนามเทนนิส สนามเปตอง สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล แพล่องชมทัศนียภาพ ไว้บริการให้ความสะดวกแก่ผู้มาเยือน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะเหมาะต่อการท่องเที่ยวแล้วเขื่อนบางลางยังคงคุณสมบัติของเขื่อนเอนกประสงค์ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกในภาคใต้ไว้ได้เช่นเดิมคือ ช่วยในการป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้าและการประมง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม,ติดต่อบ้านพักโทรฯ 0-7329-9237-8, 0-7329-7099 ล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาปเหนือเขื่อน โทรฯ 0-7328-1063-66 ต่อ 2291)

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
ยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินตามรอยพระบาทชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีอาหารการกินที่หลากหลายทั้ง ไทย จีน มุสลิม ผู้คนรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดเป็นเพียงภาพลวงตา อีกไม่นานก็จะหายไป เพราะเขาเองก็เบื่อเต็มทนแล้วเพราะตั้งแต่วันแรกที่หลงผิดชีวิตยังหาความสุขไม่ได้ จะขอกลับมาเป็นคนดีของสังคมเร็วๆนี้

อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ

อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์