Thursday, August 7, 2008

จังหวัดไหนมีนกแอ่นมากที่สุด?

เมื่อเอ่ยถึงอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทุกท่านก็จะนึกถึงนกแอ่น ตึกนกแอ่น คอนโดฯนกแอ่น และหลายๆเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับนกแอ่น ผมอยากจะตั้งคำถามว่า ทำไมที่อำเภอปากพนังจึงมีนกแอ่นมาก? อะไรคือตัวชี้วัด สภาพความสมบูรณ์ของผืนป่า สภาพความเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำอันดับหนึ่งของประเทศ ฯลฯ

บ้านนกแอ่น ตึกนกแอ่น คอนโดฯนกแอ่น เกิดขึ้นอย่างมากมายในอำเภอปากพนัง ตัวเลขของความสำเร็จที่เคยได้รับฟังอยู่ที่ 30% ผู้ที่ประสบความสำเร็จก็ไม่อยากบอกใครด้วยเหตุผลหลายๆประการ ผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่อยากบอกใครอีกเช่นกัน ไม่มีใครอยากบอกความล้มเหลวของตนเอง

จังหวัดอื่นๆที่ทำบ้านนกแอ่นแล้วประสบความสำเร็จ เช่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดชุมพร ฯลฯ จังหวัดเหล่านี้มีองค์ประกอบอะไรบ้างที่บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นแหล่งที่ดีที่เหมาะสมในการลงทุนทำบ้านนกแอ่น ถ้าตอบคำถามเรื่องนี้ได้ การเลือกทำเลเพื่อลงทุนทำบ้านนกแอ่นจะไม่มีความเสี่ยง ผมเองก็เคยตั้งข้อสังเกตุสำหรับจังหวัดยะลาว่าไม่น่าจะทำบ้านนกแอ่นได้สำเร็จ สิ่งแรกที่คิดคือคิดว่าจังหวัดยะลาไม่มีพื้นที่ด้านใดที่ติดทะเล ห่างจากทะเลประมาณ 30 กิโลเมตร เมื่อมีผู้เริ่มต้นและทำได้สำเร็จ จึงทำให้มองหาองค์ประกอบของความสำเร็จ และพบว่าพื้นที่ของจังหวัดยะลามีองค์ประกอบที่ดีที่เหมาะสมกับการทำบ้านนกแอ่น มีพื้นที่ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์หลงเหลือจากนโยบายปิดป่า มีแม่น้ำ มีพืชสวนพืชไร่ มีความเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำอยู่มาก มีแมลงชนิดต่างๆที่เป็นอาหารของนกแอ่นอย่างเพียงพอ ผมจึงอยากให้ท่านที่สนใจการทำบ้านนกแอ่นในพื้นที่ต่างๆทุกจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล ใกล้ทะเล ใกล้แม่น้ำ ช่วยสำรวจองค์ประกอบด้านอื่นๆที่จะมีผลต่อความสำเร็จในการทำบ้านนกแอ่น ช่วยกันทำโซนนิ่ง ช่วยกันสำรวจแหล่งนกแอ่น หาศูนย์กลางของนกแอ่น(Swiftlet Center)ในแต่ละพื้นที่ให้เจอ ถ้าทำเช่นนี้ได้ท่านจะไม่มีความเสี่ยงมากนัก

นึกถึงการทำบ้านนกแอ่นแต่ละหลังที่ต้องใช้เงินลงทุน สมมุติว่าลงทุนหลังละ 2 ล้านบาท 100 บ้านนกแอ่นจะใช้เงินลงทุนทั้งหมด 200 ล้านบาท ถ้าความสำเร็จเกิดขึ้นได้เพียง 30% ท่านลองคิดดูว่าจะเกิดการสูญเปล่าเพียงไร ผมไม่อยากให้เกิดการลงทุนที่สูญเปล่ากับทุกท่านที่สนใจการทำบ้านนกแอ่น จึงอยากให้พวกเราช่วยกันทำการบ้านข้อนี้ร่วมกัน แต่ผมคิดว่าคงไม่มีใครอยากทำการบ้านข้อนี้กับผม ก็ไม่เป็นไร ที่ผมให้ท่านทำการบ้านข้อนี้ก็เพื่อให้ได้ประโยชน์กับตัวท่านเอง เพื่อความสำเร็จของท่าน

ดังนั้นก่อนที่ท่านจะลงทุนทำบ้านนกแอ่น ท่านจึงต้องสำรวจด้วยตัวท่านเองว่าพื้นที่ที่ท่านจะลงทุนทำบ้านนกแอ่นนั้น เป็นพื้นที่ที่นกแอ่นบินผ่านอยู่เป็นประจำ เป็นพื้นที่ที่นกแอ่นมาหาอาหารกินเป็นประจำ มีความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าอยู่โดยรอบพื้นที่ มีพืชสวนพืชไร่ มีแหล่งน้ำสะอาด มีพื้นที่ชุ่มน้ำอยู่มากมาย สรุปก็คือเป็นแหล่งที่ผลิตอาหารให้นกแอ่นได้อย่างเพียงพอและยั่งยืน ถ้าท่านพบพื้นที่ดังที่กล่าวถึง ท่านจะไม่เหนื่อย

สุดท้ายจึงยังไม่มีคำตอบว่าจังหวัดไหนมีนกแอ่นมากที่สุด และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผู้ลงทุนทำบ้านนกแอ่น ลงทุนทำบ้านนกแอ่นที่จังหวัดไหนก็ได้ ที่ท่านพบว่ามีองค์ประกอบครบตามที่ท่านต้องการ

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

No comments:

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
ยะลา หรือ ยะลอ แปลว่า "แห" เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองตอนใต้ ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี ต่อมาได้ประกาศเป็นจังหวัด ตามระเบียบบริหารการปกครองใหม่เมื่อปี 2476 ปัจจุบันจังหวัดยะลามีพื้นที่ 4,521.077 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 376 หมู่บ้าน มีอำเภอเมือง อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศไทย ดั่งคำขวัญที่ว่า "ยะลา : ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน" อยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตร หรือโดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 1,440 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หลักเมืองยะลา

หลักเมืองยะลา
หลักเมืองยะลาสร้างขึ้นจากแนวความคิดของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมกับบรรดาข้าราชการซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมจังหวัดยะลาเป็นอาณาเขตหนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพิ่งแยกออกเป็นเมืองหนึ่งต่างหากในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2335) ที่ตั้งตัวเมืองยะลาเดิมมิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน แต่ได้โยกย้ายมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงให้ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 เวลา 10.30 น. ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางของเมืองยะลา ทั้งนี้เนื่องจากผังเมืองยะลาได้ออกแบบไว้เหมาะเจาะกันพอดีรอบๆวงเวียนหลักเมือง อันเป็นวงเวียนชั้นในสุดเป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองกำกับการตำรวจภูธร สำนักงานที่ดิน สำนักงานเกษตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่างๆของจังหวัดจะมารวมกันที่หลักเมือง

วัดคูหาภิมุข

วัดคูหาภิมุข
ถ้ำคูหาภิมุขตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง ไปตามเส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าวัดอีก 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ สร้างสมัยศรีวิชัยประมาณ 1,300 ปีเศษ ภายในมีถ้ำต่างๆเช่น ถ้ำมืด ถ้ำ ภปร. มีหินงอกหินย้อย และหยดน้ำไหลรินจากโขดหินสวยงามยิ่งนัก หยดเกร็ดเพชรระยิบระยับตา ซึ่งในปี 2539 ถ้ำคูหาภิมุขได้รับรางวัลการประกวดแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พระมหากัจจายนะ

พระมหากัจจายนะ
พระมหากัจจายนะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเมืองยะลา อยู่กลางแจ้งภายในวัด องค์ใหญ่สวยงาม หากหมั่นทำความดีเมื่อมาขอพรจากท่านมักจะประสบความสำเร็จ อยู่ห่างจากศาลากลางไปทางถนนสุขยางค์ทางออกมุ่งสู่อำเภอเบตงประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโรงเรียนตำรวจภูธร 9 (กองบัญชาการส่วนหน้า)

วัดพุทธาธิวาส

วัดพุทธาธิวาส
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ ณ วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขามีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ มหาเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฏีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เขื่อนบางลาง

เขื่อนบางลาง
เขื่อนบางลางในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองยะลาสู่อำเภอเบตง บนเส้นทางหลวงสายยะลา-เบตง สามารถแวะชมทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนบางลางได้ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา 58 กิโลเมตร และเข้าไปในตัวเขื่อนอีกประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเขื่อนบางลางสร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ทิวเขาสันกาลาคีรี สันปันน้ำระหว่างไทยกับมาเลเซียในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ด้วยฝีไม้ลายมือมนุษย์ทำให้พื้นที่บริเวณเหนือเขื่อน กลายสภาพเป็นทะเลสาปน้ำจืดกลางหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีจากพันธุ์พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดและภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวเรียงรายสลับซับซ้อนโอบล้อมอยู่ ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ มีอาคารบ้านพักตากอากาศ ห้องจัดประชุม ร้านอาหาร สนามเทนนิส สนามเปตอง สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล แพล่องชมทัศนียภาพ ไว้บริการให้ความสะดวกแก่ผู้มาเยือน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะเหมาะต่อการท่องเที่ยวแล้วเขื่อนบางลางยังคงคุณสมบัติของเขื่อนเอนกประสงค์ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกในภาคใต้ไว้ได้เช่นเดิมคือ ช่วยในการป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้าและการประมง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม,ติดต่อบ้านพักโทรฯ 0-7329-9237-8, 0-7329-7099 ล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาปเหนือเขื่อน โทรฯ 0-7328-1063-66 ต่อ 2291)

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
ยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินตามรอยพระบาทชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีอาหารการกินที่หลากหลายทั้ง ไทย จีน มุสลิม ผู้คนรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดเป็นเพียงภาพลวงตา อีกไม่นานก็จะหายไป เพราะเขาเองก็เบื่อเต็มทนแล้วเพราะตั้งแต่วันแรกที่หลงผิดชีวิตยังหาความสุขไม่ได้ จะขอกลับมาเป็นคนดีของสังคมเร็วๆนี้

อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ

อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์