ไม้ตีรังที่ติดอยู่บนเพดานในบ้านนกแอ่นปัจจุบันมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับไม้ที่นกแอ่นเกาะและทำรังในบ้านเรือนของชาวบ้านยุคก่อนๆ ความแตกต่างมีทั้งจากชนิดของไม้และขนาดของไม้ที่ใช้ เพื่อความเข้าใจเรื่องไม้ตีรัง จึงควรศึกษาประวัติการพัฒนาการของไม้ตีรังว่ามีความเป็นมาอย่างไร
บ้านนกแอ่นยุคแรกๆได้ถูกพบพ้องกันหรือตรงกันกับการที่เราได้รับรู้ว่า นกแอ่นเป็นนกป่านกทะเลอาศัยอยู่ในถ้ำธรรมชาติตามเกาะแก่งต่างๆกลางทะเล หรือถ้ำบนผืนป่า หน้าผาใกล้ชายฝั่งทะเล ทำรังกระจัดกระจายบนผนังถ้ำ เพราะผนังถ้ำมีความแข็ง นกแอ่นจึงไม่สามารถเกาะได้ง่ายๆเพื่อทำรังทั่วทุกพื้นที่บนผนังถ้ำ ไม่มีส่วนที่เป็นไม้ภายในถ้ำซึ่งนกแอ่นสามารถเกาะและทำรังได้ง่ายกว่า เมื่อภายในถ้ำเกิดความแออัดจากการเพิ่มของประชากรนกแอ่น
หรืออุปสรรคอื่นๆ ทำให้นกแอ่นกลุ่มแรกๆได้อพยพจากถ้ำนกแอ่นสู่บ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อทำรัง
อุปสรรคและเงื่อนไขต่างๆที่ทำให้นกแอ่นบางส่วนอพยพจากถ้ำสู่บ้านเรือนของชาวบ้านมีดังนี้:-
-1. ภัยพิบัติ น้ำท่วม ดินถล่ม และสิ่งอื่นๆ เช่น ปากถ้ำถูกพืชไม้เลื้อยเจริญงอกงามปกคลุม ทำให้ถ้ำนกแอ่นเกิดความไม่สะดวกสบายที่จะอยู่ต่อไป
-2. มีศัตรูรบกวนจำนวนมาก เช่น หนู งู แมลงสาป ตัวไร นกเหยี่ยว นกแสก พวกเก็บรังนก
-3. ถ้ำนกแอ่นเริ่มห่างจากแหล่งอาหารเกินไป นกแอ่นจะอพยพไปอยู่ใกล้แหล่งอาหาร ปกตินกแอ่นจะออกหากินในรัศมี 25 กิโลเมตรจากถิ่นที่อยู่อาศัย ถ้าหากต้องบินไกลกว่า 25 กิโลเมตรจากถิ่นที่อยู่อาศัย นกแอ่นจะอพยพไปหาที่อยู่ใหม่ใกล้แหล่งอาหาร เช่น นาข้าว ทุ่งหญ้า แม่น้ำ พื้นที่เพราะปลูก ป่าไม้ สุมทุมพุ่มไม้ ป่าชายเลน
-4. ภายในถ้ำนกแอ่นเกิดความแออัด ทำให้ลูกนกแอ่นที่เกิดใหม่ไม่สามารถหาที่ทำรังได้
ด้วยอุปสรรคและเงื่อนไขต่างๆดังกล่าว และเพราะว่ามีบ้านเรือนของชาวบ้านที่มีความเหมาะสมทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ความมืด และความปลอดภัย นกแอ่นอพยพเหล่านี้จึงเริ่มทำรังในบ้านเรือนของชาวบ้าน เช่น บ้านร้าง โรงงานร้าง โกดังเก็บของร้าง
บ้านเรือนและตึกที่นกแอ่นเข้าอยู่อาศัยคือบ้านเรือนและตึกที่มีเงื่อนไขคล้ายกับถ้ำนกแอ่น เช่น ตึกเก่าที่ก่อด้วยอิฐ ประตูและหน้าต่างถูกปิดทิ้งร้างเป็นเวลานาน ทำให้อุณหภูมิและความชื้นภายในบ้านคงที่ ตรงกันข้าม บางบ้านเรือนและบางตึกที่ทิ้งร้างมานาน แต่อุณหภูมิและความชื้นไม่เหมาะสม นกแอ่นก็ไม่เข้าอยู่อาศัย เราจึงเห็นนกแอ่นเลือกเข้าเป็นบางบ้านบางตึกเท่านั้น จึงเป็นที่มาของเรื่องความเชื่อเรื่องบุญวาสนา
การพัฒนาการของไม้ตีรัง:-
-1. แรกๆนกแอ่นจะทำรังบนกำแพงก่อน ซึ่งมีความคล้ายผนังถ้ำมากกว่าบนไม้
-2. บ้านเรือนเก่ามีมุมที่ซ้อนเร้น มีไม้ระแนงใต้หลังคา มีโครงไม้เพดาน นกแอ่นใช้อุ้งเล็บเกาะบนไม้ได้ง่ายกว่าบนกำแพง รังนกเกาะบนไม้ได้ดีกว่าบนกำแพง บ้านเรือนเก่าส่วนใหญ่ใช้ไม้สัก ดังนั้นผู้คนในยุคนั้นจึงเชื่อว่านกแอ่นชอบทำรังบนไม้สัก
-3. บ้านนกแอ่นในยุคนั้นผลิตรังนกแอ่นได้เท่าที่มีพื้นที่ของไม้ระแนง ไม้โครงพื้นโครงเพดานให้เกาะทำรัง รวมทั้งฝาผนังกำแพง เจ้าของบ้านยังไม่เคยคิดจะจัดการหรือทำพื้นที่เกาะทำรังเพิ่ม รู้จักแต่เก็บรังนกแอ่นขายอย่างเดียว
-4. บ้านเรือนเก่าบางหลังปล่อยทิ้งร้างจนไม้พุ ไม่ได้ซ่อมแซม จึงได้รังนกแอ่นน้อย
-5. เจ้าของบ้านเรือนเก่าเริ่มตระหนัก อยากได้รังนกแอ่นเพิ่มมากขึ้น เริ่มสังเกตุการใช้ไม้ชนิดต่างๆแทนไม้ที่พุ ใช้ไม้แผ่นแทนไม้ระแนง ปรากฎว่านกแอ่นทำรังบนไม้ที่ตีให้ใหม่ ไม้สักก็ยังคงใช้อยู่บ้างเพราะทนทานดีไม่พุง่าย แต่เจ้าของบ้านไม่ค่อยชอบใจ ไม้สักราคาแพงและหายาก
-6. หลังจากให้ความสนใจเรื่องไม้ตีรังจนพบว่า นกแอ่นชอบไม้ที่มีใย ไม่มีกลิ่น ไม่สกปรก ไม่ขึ้นรา กบบางๆพอขุยไม้ออกไม่ต้องให้เรียบจนลื่นมือ ไม่จำเป็นต้องไม้สักอีกต่อไป ไม้อื่นๆก็ได้ ให้เป็นไม้ที่แข็งกลาง ไม่มีกลิ่น มีใยบ้างยิ่งดี
-7. โดยการทดสอบเพื่อเพิ่มผลผลิตรังนกแอ่นและคุณภาพของรังนกแอ่น พบว่านกแอ่นชอบไม้ชนิดใหม่ ไม้ชนิดนี้สามารถดึงดูดให้นกแอ่นทำรังภายใน 4-5 สัปดาห์ และรังนกแอ่นสามารถเก็บเกี่ยวได้ง่าย ไม้ชนิดนี้คือ SWO-2 หรือไม้ "สยาหิน" นั่นเอง ไม้ชนิดนี้ไม่มีกลิ่น เบา และแข็งกลาง มีการเซาะร่องหลายๆร่องบนแผ่นไม้ เพื่อให้นกแอ่นเกาะและตั้งคิ้วทำรังได้ง่ายขึ้น
-8. ไม้ SWO-2 หรือ ไม้สยาหิน หลายๆขนาด ทั้งความกว้าง ความหนา ได้ถูกทดลองใช้เพื่อให้สามารถผลิตรังนกแอ่นเพิ่มขึ้น
-8.1. ไม้หนา 2-3 เซนติเมตร สามารถตีตะปูได้ง่าย ยึดกับเพดานได้มั่นคง นกแอ่นรู้สึกปลอดภัย
-8.2. ไม้กว้าง 15, 20, 30 เซนติเมตร สามารถบังแสงและลมได้ดี
จากการประมวลการพัฒนาการของไม้ตีรัง จนถึงการใช้ไม้ SWO-2 หรือไม้สยาหิน ทั้งความหนาและความกว้างของไม้ มีความเกี่ยวพัน 2 หน้าที่คือ
- ถ้าตีไม้รังขนาด 30 x 100 เซนติเมตร ควรใช้ไม้หน้ากว้าง 15-20 เซนติเมตร
- ถ้าตีไม้รังขนาดใหญ่กว่า 30 x 100 เซนติเมตร ควรใช้ไม้หน้ากว้าง 20-30 เซนติเมตร
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
ยินดีต้อนรับสู่ Swiftlet Lover Blog. เป็น blog/website สำหรับผู้สนใจการเลี้ยงและการทำบ้านนกแอ่น เป็นศูนย์กลางของข้อมูล ข่าวสาร และ วิชาการ เพื่อผู้สนใจชาวไทยโดยเฉพาะ นำเสนอ โดย อภิชาต อริยะพันธุ์(เทพชัย อริยะพันธุ์ อดีตผู้ก่อตั้ง) จังหวัดยะลา
Tuesday, May 20, 2008
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
หลักเมืองยะลา
วัดคูหาภิมุข
พระมหากัจจายนะ
วัดพุทธาธิวาส
เขื่อนบางลาง
วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ
อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์
No comments:
Post a Comment