ข้อดีของ"ระบบตารางแบบกล่อง" คือป้องกันแสงและลมได้ดี มีไม้ตีปิดทั้งสี่ด้าน ให้ผลผลิตรังนกแอ่นได้มากกว่าการตีไม้รังแบบแถว แต่ละกล่องสามารถให้ผลผลิตรังนกแอ่นสูงสุดถึง 35-40 รัง
ข้อเสียของ"ระบบตารางแบบกล่อง" คือจะมีรังนกแอ่นรังมุม 4 รัง รังมุมจะขายได้ราคาไม่ดี
มีข้อความจริงที่ได้จากการพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์แก่กันและกันในกลุ่มผู้รักนกแอ่นยะลา ได้ข้อความจริงว่า การที่เราตีไม้ปิดมุมรังเพื่อไม่ให้รังนกแอ่นเป็นรังมุม 90 องศา แต่เรากลับได้รังนกแอ่นซึ่งเป็นรังมุมป้านถึง 8 รัง และผู้รับซื้อรังนกแอ่นก็จะตีราคารังนกแอ่นมุมป้านเป็นรังนกแอ่นรังมุมเช่นกัน ขายได้ราคาไม่ดีเหมือนรังนกแอ่นรังมุม ดังนั้นถ้าผู้รับซื้อรังนกแอ่นยังยึดถือเกณฑ์อันนี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องตีไม้ปิดมุมรังให้เปลืองไม้ และเราก็จะมีรังนกแอ่นรังมุมเพียง 4 รังต่อกล่องเท่านั้นเอง
ผมเคยเขียนถึงผู้รับซื้อรังนกแอ่นในบทความก่อนๆว่า เขาจะมีเทคนิคในการกำหนดเพื่อให้ราคารังนกแอ่นของเราต่ำลงตลอด รังนกแอ่นรังมุมก็เป็นหนึ่งในข้ออ้าง ทั้งๆที่คุณภาพของรังนกแอ่นจะรังเล็ก รังใหญ่ รังมุมหรือไม่มุม คุณภาพของรังนกแอ่นก็ยังสูงสุดเหมือนเดิม ต้มหรือตุ๋นเมื่อไหร่ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม ทำอย่างไรถึงจะทำให้ราคารังนกแอ่นสูงได้สมกับคุณภาพและระยะเวลาที่รอคอยกว่าจะถึงช่วงเก็บเกี่ยว นี่คือคำถามที่ผู้ทำบ้านนกแอ่นทุกท่านจะต้องช่วยกันคิด เพื่อคงเสน่ห์แห่งความเย้ายวนของราคารังนกแอ่นให้อยู่คู่บ้านนกแอ่นตลอดไป
การตีไม้แนว-ไม้ขวางยังมีเรื่องที่ต้องให้ทำความเข้าใจอีกข้อหนึ่งคือ หากพื้นที่ภายในบ้านนกแอ่นของท่านมีบริเวณพื้นที่กว้าง พื้นที่ของไม้ตีรังก็ย่อมมีมากตามพื้นที่ ดังนั้นการตีไม้รังก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน โดยยึดการศึกษาแนวเส้นทางการบินของนกแอ่นที่ต้องทำวงบินขณะบินอยู่ภายในบ้านนกแอ่น การตีไม้แนว-ไม้ขวางจึงต้องมีการวางแผนให้ดี เพื่อให้การตีไม้รังได้ผลประโยชน์สูงสุด ไม้ขวางดักแนวเส้นทางวงบินของนกแอ่นได้มากที่สุด ทำให้นกแอ่นเข้าเกาะได้สะดวก ทำให้เกิดการใช้พื้นที่ของไม้ตีรังอย่างทั่วถึง ได้ผลผลิตรังนกแอ่นสูงสุด
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์
No comments:
Post a Comment