Monday, November 24, 2008

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเสียงเรียกนกแอ่น 2

มีท่านผู้อ่านบทความหลายท่านสนใจสอบถามเรื่องเสียงเรียกนกแอ่น Swiftlet Sound, Swiftlet Chirp ว่ามีกี่ชนิด กี่แบบ มีความแตกต่างในการใช้งานอย่างไร เพราะได้ยินว่ามีทั้งเสียงเรียกนอก เสียงเรียกใน และเสียงสำหรับทดสอบหาจำนวนนก บทความนี้จึงขอเสนอเรื่องเสียงเรียกนกแอ่นอีกครั้ง เอาแบบให้ชัดเจน กระจ่างในใจไม่หงุดหงิด ดีมั๊ยครับ?

ในประเทศไทยเสียงเรียกนกแอ่นยังมีจำหน่ายไม่มาก ไม่มีการแข่งขันเหมือนในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยเฉพาะประเทศมาเลเซีย บางเจ้าหรือบางเว็บถึงกับประกาศว่าเขามีแผ่นซีดีเสียงเรียกนกแอ่นที่มากที่สุดในเอเซีย ผมเองก็ยังสงสัยเหมือนกันว่ามีมากแล้วจะเป็นอย่างไร ไปบันทึกเสียงนกแอ่นทุกแห่งทั่วประเทศมาเลเซียหรืออย่างไร เสียงนกแอ่นแต่ละแห่งไม่เหมือนกันหรือไง

มาทำความเข้าใจเรื่องเสียงเรียกนกแอ่นกันอีกสักครั้ง เสียงเรียกนกแอ่นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ:-

1. เสียงเรียกนอก คือ เสียงเรียกที่ใช้เพื่อดึงดูดนกแอ่นที่บินผ่านไปมาเหนือบ้านนกแอ่นใหม่ของท่าน โดยนำลำโพง Tweeter ชนิดปากเป็ดไปติดตั้งตรงปากทางเข้าของช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่น เสียงเรียกนอกเป็นเสียงที่จะประชาสัมพันธ์เชิญชวนนกแอ่นที่บินผ่านไปมาให้ได้ยิน ให้ได้รับรู้ว่า ณ ที่ตรงนี้มีกลุ่มเพื่อนนกแอ่นของเขาอาศัยอยู่ กลุ่มนกแอ่นที่บินผ่านไปมาจะได้แวะลงมาสำรวจ ทำให้ได้พบเห็นบ้านนกแอ่นใหม่ของท่าน

เสียงเรียกนอกยังสามารถนำไปใช้ได้อีก 2 ลักษณะ ดังนี้:-

1.1 เสียงดึง (Pooling Soung) ใช้กับลำโพง Hexagonal หรือ Long Range ที่ติดตั้งนอกตัวบ้านส่วนที่สูงที่สุด เพื่อดึงดูดนกแอ่นที่บินอยู่ไกลๆ หรือ ดึงดูดนกแอ่นจากบ้านนกแอ่นที่อยู่ห่างออกไป

1.2 เสียงเชิญชวนหรือเสียงนำทาง (Inviting or Guiding Sound) ใช้เป็นเสียงเชิญชวนและนำทางนกแอ่นใหม่ให้เข้าสู่ภายในบ้านสู่ส่วนที่ลึกที่สุด

2. เสียงเรียกใน คือ เสียงเรียกที่ใช้เปิดภายในบ้านนกแอ่น โดยติดตั้งลำโพง Tweeter ขนาดเล็กบริเวณส่วนของไม้ตีรัง ลำโพง Tweeter ขนาดเล็กควรติดตั้งให้ได้จำนวนมากตามที่เคยแนะนำไว้ในบทความเรื่องลำโพงเสียงเรียกใน เสียงเรียกในจะประกอบด้วยเสียงของลูกนกแอ่น เสียงของนกแอ่นตัวเมีย เสียงของคู่นกแอ่นตัวผู้ตัวเมียส่งเสียงตอบโต้กัน เสียงเรียกในเป็นเสียงของบรรยากาศการเชิญชวนให้อยู่อาศัย การสร้างครอบครัว การมีลูก

3. เสียงทดสอบ (Birds Test Sound) คือเสียงเรียกที่จัดทำเพื่อวัตถุประสงค์ในการทดสอบเรียกนกแอ่นโดยเฉพาะ เป็นเสียงเรียกนกแอ่นที่มีคลื่นความถี่สูงเพื่อให้นกแอ่นได้ยินในระยะไกล มักจะบันทึกจากเสียงนกแอ่นที่ถูกศัตรูทำร้าย นกแอ่นจะร้องเสียงดังเพื่อเรียกให้เพื่อนๆช่วย นกแอ่นเป็นนกกลุ่มนกสังคมใหญ่ เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนนกแอ่นถูกทำร้ายหรือโดนโจมตีจะรีบบินเข้าช่วยทันที เขาจึงใช้เสียงชนิดนี้เป็นเสียงทดสอบนกแอ่น เพราะนกแอ่นจะตอบสนองดีมาก แต่ไม่สามารถใช้เป็นเสียงเรียกนกแอ่นแบบปกติได้

ลักษณะของเสียงเรียกนกแอ่นที่ดี เสียงต้องใส ชัดเจน เคลียร์ ไม่มีเสียง Hiss และ เสียง Hum เสียง Back Ground ต้องมีแต่เสียงนกแอ่นเท่านั้น ห้ามมีเสียงชนิดอื่นแทรก ต้องบันทึกจากถ้ำนกแอ่นหรือบ้านนกแอ่นที่มีนกแอ่นมากที่สุดจริงๆ ถ้าท่านได้เสียงชนิดนี้แบบนี้ท่านก็สบายใจได้

เสียงเรียกนกแอ่นมีขายหลายแบบจากหลายแหล่ง บางเสียงราคาแพงมาก บางเสียงราคาถูก บางเสียงสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากอินเตอร์เน็ต เสียงเรียกนกแอ่นที่ดีจะมีราคาแพงและหายาก ราคาจะอยู่ที่หลายๆพันจนถึงหมื่นบาท หากท่านสามารถหาซื้อเสียงเรียกนกแอ่นที่ดีได้ ถึงแม้ราคาจะแพงแต่ผลลัพธ์ที่ได้เกินคุ้ม

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเสียงเรียกนกแอ่นอันไหนดีอันไหนไม่ดี เสียงเรียกนกแอ่นทุกชนิดสามารถเรียกนกแอ่นให้เข้าอยู่อาศัยและทำรังในเวลาที่รวดเร็วเหมือนกันหมดหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดคือเราต้องเรียนรู้ในเรื่องของเสียงเรียกนกแอ่นว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร หากท่านเข้าใจเรื่องเสียงเรียกนกแอ่น การเลือกเสียงนกแอ่นให้ตรงกับความต้องการก็จะง่ายขึ้น ส่วนใหญ่ทุกท่านจะมองข้ามในเรื่องนี้ คิดว่าเป็นแค่เสียงเรียกนกแอ่นก็ใช้ได้แล้ว คุณภาพของเสียงไม่ได้คำนึงถึง อาจเป็นเพราะว่าหายากและไม่เคยได้ฟังเสียงมาก่อน หาซื้อต่อจากเขาได้ก็ดีใจแล้ว

ดังนั้นเรื่องเสียงเรียกนกแอ่น หากท่านมีโอกาสได้ฟังบ่อยๆ ได้ฟังจากหลายๆแผ่น จากหลายๆแหล่ง ท่านจะเห็นความแตกต่าง ท่านจะรู้ว่าแผ่นไหนเสียงดี แผ่นไหนเสียงไม่ดี ถ้าท่านฟังจากแผ่นเดียว ท่านจะไม่มีตัวเปรียบเทียบ ท่านจึงแยกแยะไม่ออก แต่ท่านไม่จำเป็นต้องซื้อทุกแผ่นจากทุกแห่งที่มีขาย เลือกจากแหล่งที่เชื่อถือได้สัก 2 - 3 แห่งก็พอ จากนั้นก็เริ่มสอบถามจากผู้ทำบ้านนกแอ่นท่านอื่นๆ ขอแลกเสียงเรียกนกแอ่นกับเขา ท่านทำเช่นนี้ท่านจะได้เสียงเรียกนกแอ่นหลายชุดหลายแบบ จากนั้นจึงลองเปิดฟังบ่อยๆเพื่อคัดเลือกเสียงแล้วนำไปทดลองเปิดทดสอบเสียงดู แผ่นไหนนกแอ่นตอบสนองต่อเสียงเรียกมาก ท่านก็ทำเครื่องหมายไว้ ทำเช่นนี้ท่านจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสียงเรียกนกแอ่น และท่านจะมีเสียงเรียกนกแอ่นชุดที่ดีที่สุดไว้ใช้เองตลอดไป

สนใจเสียงเรียกนกแอ่นของ Swiftlet Lover ติดต่อได้ที่ 081-8965555

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Saturday, November 15, 2008

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

สิ้น "เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา"
ปวงข้าขอตั้งจิตอธิษฐาน
ส่งเสด็จสู่สวรรค์ชั้นวิมาน
ธ จะคงยืนนานในใจไทย
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า

นายเทพชัย อริยะพันธุ์ และกลุ่มผู้รักนกแอ่นจังหวัดยะลา

Tuesday, November 11, 2008

ความมืดภายในบ้านนกแอ่น : ควรมืดขนาดไหนดี?

การทำบ้านนกแอ่น ความมืดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่มีผลต่อความรู้สึกของนกแอ่น นกแอ่นรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในที่มืด เพราะความมืดทำให้ศัตรูมองไม่เห็นรังที่อยู่ของเขา การทำบ้านนกแอ่นคือการเรียนแบบจากสภาพของถ้ำนกแอ่น บ้านนกแอ่นควรมีความมืดใกล้เคียงกับถ้ำนกแอ่น เรามักจะได้ยินการพูดถึงค่าความมืดเป็นหน่วย "ลักซ์" (Lux) ตำราเกี่ยวกับบ้านนกแอ่นหลายเล่มมักกล่าวถึงค่าความมืดที่บ้านนกแอ่นควรจะทำให้ได้ คือ ประมาณ 2 - 3 ลักซ์

ค่าความมืดประมาณ 2 - 3 ลักซ์ ถ้าท่านไม่มีเครื่องวัดแสงท่านจะประมาณได้อย่างไร? เอาง่ายๆแบบประหยัดแบบไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องวัดแสงมาวัด เพราะซื้อมาแล้วก็เอามาเก็บ ไม่ได้วัดทุกวัน ใช้ไม่คุ้มค่าเกินความจำเป็น ให้ท่านทำดังนี้ ท่านวางกระดาษขาวขนาด A4 ลงบนพื้นห้องของบ้านนกแอ่นที่ท่านจะวัดความมืด หากมองไม่เห็นกระดาษขาวA4 ก็แสดงว่า บ้านนกแอ่นของท่านมืดสนิท หากเห็นเพียงรางๆก็แสดงว่าบ้านนกแอ่นของท่านมีค่าของความมืดประมาณ 2 - 6 ลักซ์ จะมืดหรือสว่างก็อยู่ที่การปิดกั้นแสงของท่านว่าทำได้ดีขนาดไหน

สำหรับท่านที่มีโอกาสได้เข้าเยี่ยมชมบ้านนกแอ่นหลายๆแห่งถือเป็นผู้ที่มีโอกาสดีเยี่ยม การเข้าดูภายในบ้านนกแอ่นหลายๆแห่ง คือการเรียนรู้ที่ดีที่สุด ท่านสามารถเห็นความแตกต่างของบ้านนกแอ่นแต่ละหลัง บางบ้านความมืดไม่มากแต่นกแอ่นอยู่อาศัยและทำรังมากมาย บางบ้านความมืดดีมาก 2 - 3 ลักซ์พอดี แต่มีนกอยู่อาศัยและทำรังน้อย อะไรคือความถูกต้องในเรื่องของแสงสว่างและความมืด

การทำบ้านนกแอ่นให้ได้ความมืดที่เหมาะสม จึงขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ขึ้นอยู่กับบ้านนกแอ่นหลังแรกๆในพื้นที่นั้นว่ามีสภาพความมืดภายในบ้านเป็นอย่างไร หากเราจะแบ่งลูกนกแอ่นจากเขา เราก็ควรทำบ้านนกแอ่นของเราให้มีความมืดเหมือนเขา ถ้าทำไม่ได้ก็ยากที่จะได้ลูกนกแอ่นจากเขา เราจึงเห็นว่าบางบ้านนกแอ่นสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว บางบ้านนกแอ่นใช้เวลาเป็นปีๆกว่าจะสำเร็จ นี่เพียงแค่ปัญหาเรื่องแสงสว่างและความมืดเท่านั้น หากนำเรื่องอื่นๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ช่องทางเข้า-ออก วงบิน เสียงเรียกนก ฯลฯ มาหาข้อยุติทีละเรื่อง ก็มีให้คิดอีกมากมาย ผู้ที่ทำบ้านนกแอ่นใหม่ๆยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ ย่อมมีโอกาสที่จะล้มเหลวได้ง่าย การหาข้อมูลอย่างรอบคอบรอบด้านของแต่ละพื้นที่จึงสำคัญยิ่ง เป็นข้อมูลของความสำเร็จของท่านเอง

เราจะเห็นว่าผู้ที่เคยทำบ้านนกแอ่นสำเร็จสูงสุดแล้วในพื้นที่หนึ่ง พอไปทำบ้านนกแอ่นในอีกพื้นที่หนึ่ง โดยลอกแบบ 100% จากบ้านนกแอ่นหลังเดิมไปทำ กลับพบกับความล้มเหลว

คนหรือนกแอ่นก็เหมือนกัน หากอยู่ในสภาพเดิมที่เคยชินเป็นเวลานาน อยู่ๆให้ท่านต้องมาเปลี่ยนความคุ้นเคยเดิมๆ ท่านก็ไม่ชอบแน่นอน นกแอ่นก็เช่นกัน ชอบความคุ้นเคยแบบเดิมๆ ดังนั้นการทำบ้านนกแอ่นให้ประสบความสำเร็จ เรื่องแสงสว่างและความมืดภายในบ้านนกแอ่น จึงควรทำแบบผสมไว้ คือส่วนที่มืดที่สุดก็มี อยู่ลึกเข้าไปในสุดของตัวบ้านหรือบินมุดลงชั้นล่างๆ ส่วนที่สว่างก็มีอยู่ใกล้ๆช่องทางเข้า-ออก ส่วนที่สลัวๆก็มีอยู่กลางๆห้องถัดจากช่องทางเข้า-ออก หากท่านทำได้ดังนี้ท่านจะผิดพลาดน้อย นกแอ่นชอบแบบไหนเขาจะได้เลือกจุดทำรังตามใจเขา

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Friday, November 7, 2008

การเลี้ยงลูกนกแอ่นที่หล่นจากรัง

การเข้าสำรวจบ้านนกแอ่นของท่าน หรือการเข้าบ้านนกแอ่นหลังการเก็บรังนกแอ่น บางครั้งท่านจะพบลูกนกแอ่นหล่นจากรังนอนนิ่งอยู่บนพื้น หากท่านไม่ได้เข้าสำรวจ โอกาสที่ลูกนกแอ่นจะรอดชีวิตไม่มีแน่นอน ลูกนกแอ่นจะไม่ได้รับการป้อนอาหารจากพ่อแม่ พ่อแม่นกแอ่นไม่สามารถลงไปป้อนอาหารบนพื้นได้ ท่านมีทางเลือก 2 ทาง คือ หนึ่ง ท่านสามารถจับลูกนกแอ่นกลับคืนสู่รังเดิมของมันเองได้ หมายถึงรังที่มันหล่นมาจริงๆ สอง ท่านต้องเป็นพ่อแม่บุญธรรมของลูกนกแอ่นเสียเอง ด้วยการเอาลูกนกแอ่นมาเลี้ยงมาอนุบาล

ท่านจะเลี้ยงและอนุบาลลูกนกแอ่นได้อย่างไร?

คำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์เคยเลี้ยงและอนุบาลลูกนกแอ่นที่หล่นจากรังมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนมีดังนี้

1. นำลูกนกแอ่นวางลงในกล่องขนาดเล็กที่สะอาดและอบอุ่น แต่ถ้าให้ดีที่สุดวางลงในรังนกแอ่นเทียมถ้าท่านสามารถทำได้

2. อย่าวางลูกนกแอ่นหลายตัวรวมกันในกล่องเดียว หากบังเอิญท่านเจอลูกนกแอ่นหลายตัวหล่นอยู่บนพื้น ให้แยกกล่องกัน ลูกนกแอ่นจะกัดกันทำให้เกิดบาดแผลได้

3. ให้อาหารลูกนกแอ่นวันละ 3 เวลา

4. อาหารที่ดีที่สุดคือแมลงเม่าที่บินออกจากรังหลังฝนตก ลูกนกแอ่นชอบมากพอดีคำ ท่านหาวิธีจับแมลงเม่าให้ได้มากที่สุด เพื่อเก็บไว้เป็นอาหารให้ลูกนกแอ่น แมลงเม่าที่ยังไม่ได้ใช้เป็นอาหารลูกนกแอ่น เก็บใส่กล่องพลาสติกแช่ตู้เย็นไว้ป้อนมื้อต่อๆไปได้

5. หากไม่มีแมลงเม่า ตัวเลือกอื่นคือ หนอนตัวเล็กๆ สำหรับเลี้ยงนก ซึ่งมีขายตามร้านขายสัตว์เลี้ยง หรือ ร้านขายนก หนอนไม่ไผ่ ท่านต้องตัดตัวหนอนเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อป้อนลูกนกแอ่น

6. ตอนป้อนอาหารให้ลูกนกแอ่นท่านต้องระมัดระวัง อย่าใช้ที่คีบตัวหนอนที่ทำจากเหล็กหรือสแตนเลส ให้ใช้ที่คีบแบบพลาสติก ปลายไม่แหลม ลูกนกแอ่นเวลาหิวจะรีบกิน ปลายแหลมของที่คีบอาจทำให้ปากของลูกนกแอ่นเป็นแผลได้ หากลูกนกแอ่นเจ็บปากจะไม่ยอมกินอาหาร ทำให้ลูกนกแอ่นตายได้

7. ลูกนกแอ่นจะสามารถบินได้ภายใน 30 - 40 วัน หลังออกจากไข่ ดังนั้นช่วงเวลาที่ท่านต้องให้อาหารลูกนกแอ่นที่หล่นจากรังประมาณ 15 - 20 วัน เพราะลูกนกแอ่นที่หล่นจากรังส่วนมากจะเริ่มมีขนเต็มตัวแล้ว แต่ขนยังอ่อนอยู่ เมื่อลูกนกแอ่นเริ่มบินได้ ท่านต้องขังให้อยู่ในห้องที่มิดชิด ห้ามเปิดหน้าต่าง หากตีไม้ตีรังไว้บนฝาผนังให้ลูกนกแอ่นเกาะได้ยิ่งดีมาก

8. เมื่อลูกนกแอ่นถูกเลี้ยงจนโตเต็มที่ ลูกนกแอ่นจะหยุดกินอาหารประมาณ 2 วัน เพื่อพร้อมที่จะบินออกสู่โลกภายนอก ลูกนกแอ่นจะลดน้ำหนักตัวเองเพื่อให้บินได้คล่องแคล่ว

9. อาหารอื่นๆที่ท่านสามารถป้อนให้ลูกนกแอ่นที่ใกล้โตเต็มที่กิน คือ จิ้งหรีด แมลงวันทอง ตั๊กแตน แต่ท่านต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ลูกนกแอ่นสามารถกลืนได้

10. ลูกนกแอ่นไม่ชอบให้ลมพัดถูกตัว ดังนั้นท่านจึงต้องระวังเรื่องแรงลม ไม่ควรเปิดพัดลมหรือเปิดหน้าต่าง

11. ท่านอาจเปิดเสียงเรียกในให้ลูกนกแอ่นฟัง เพื่อลูกนกแอ่นจะได้รู้สึกว่ามีเพื่อน

12. หากท่านอยากให้ลูกนกแอ่นที่ท่านเลี้ยงกลับมาอยู่ที่บ้านนกแอ่นของท่าน ตอนปล่อยลูกนกแอ่นที่บินได้ก็ให้นำไปปล่อยออกจากบ้านนกแอ่นของท่านเอง ลูกนกแอ่นที่ท่านเลี้ยงจะกลับมาที่บ้านกแอ่นของท่าน

13. ท่านอาจอยากทำเครื่องหมายบนขาของลูกนกแอ่นที่ท่านเลี้ยง เพื่อจะได้สำรวจดูว่าลูกนกแอ่นที่ท่านเลี้ยงกลับมาหรือไม่ แต่คงดูลำบากเพราะขาของนกแอ่นเล็ก เวลานกแอ่นเกาะบนไม้ตีรังแล้วจะมองไม่เห็น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำเครื่องหมาย นึกว่าเขาต้องกลับมาก็พอ และนึกว่าเราทำให้เขารอดชีวิตได้ เท่านี้ท่านก็น่าจะมีความสุขความสบายใจ

บทความบทนี้จึงเป็นเพียงแนวทางสำหรับท่านให้ลองนำไปทดลองเลี้ยงดู หากว่าบังเอิญท่านไปเจอลูกนกแอ่นหล่นอยู่บนพื้นและยังไม่ตาย ท่านจะช่วยเหลือเจ้าตัวน้อยให้รอดชีวิตได้หรือไม่ หากท่านจะผ่านเลยไปไม่สนใจ ก็สุดแต่ใจของท่าน ชีวิตก็เป็นเช่นนี้แหละ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ย่อมมีกับทุกสรรพสัตว์ในโลกนี้

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
ยะลา หรือ ยะลอ แปลว่า "แห" เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองตอนใต้ ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี ต่อมาได้ประกาศเป็นจังหวัด ตามระเบียบบริหารการปกครองใหม่เมื่อปี 2476 ปัจจุบันจังหวัดยะลามีพื้นที่ 4,521.077 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 376 หมู่บ้าน มีอำเภอเมือง อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศไทย ดั่งคำขวัญที่ว่า "ยะลา : ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน" อยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตร หรือโดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 1,440 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หลักเมืองยะลา

หลักเมืองยะลา
หลักเมืองยะลาสร้างขึ้นจากแนวความคิดของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมกับบรรดาข้าราชการซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมจังหวัดยะลาเป็นอาณาเขตหนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพิ่งแยกออกเป็นเมืองหนึ่งต่างหากในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2335) ที่ตั้งตัวเมืองยะลาเดิมมิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน แต่ได้โยกย้ายมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงให้ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 เวลา 10.30 น. ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางของเมืองยะลา ทั้งนี้เนื่องจากผังเมืองยะลาได้ออกแบบไว้เหมาะเจาะกันพอดีรอบๆวงเวียนหลักเมือง อันเป็นวงเวียนชั้นในสุดเป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองกำกับการตำรวจภูธร สำนักงานที่ดิน สำนักงานเกษตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่างๆของจังหวัดจะมารวมกันที่หลักเมือง

วัดคูหาภิมุข

วัดคูหาภิมุข
ถ้ำคูหาภิมุขตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง ไปตามเส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าวัดอีก 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ สร้างสมัยศรีวิชัยประมาณ 1,300 ปีเศษ ภายในมีถ้ำต่างๆเช่น ถ้ำมืด ถ้ำ ภปร. มีหินงอกหินย้อย และหยดน้ำไหลรินจากโขดหินสวยงามยิ่งนัก หยดเกร็ดเพชรระยิบระยับตา ซึ่งในปี 2539 ถ้ำคูหาภิมุขได้รับรางวัลการประกวดแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พระมหากัจจายนะ

พระมหากัจจายนะ
พระมหากัจจายนะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเมืองยะลา อยู่กลางแจ้งภายในวัด องค์ใหญ่สวยงาม หากหมั่นทำความดีเมื่อมาขอพรจากท่านมักจะประสบความสำเร็จ อยู่ห่างจากศาลากลางไปทางถนนสุขยางค์ทางออกมุ่งสู่อำเภอเบตงประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโรงเรียนตำรวจภูธร 9 (กองบัญชาการส่วนหน้า)

วัดพุทธาธิวาส

วัดพุทธาธิวาส
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ ณ วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขามีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ มหาเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฏีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เขื่อนบางลาง

เขื่อนบางลาง
เขื่อนบางลางในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองยะลาสู่อำเภอเบตง บนเส้นทางหลวงสายยะลา-เบตง สามารถแวะชมทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนบางลางได้ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา 58 กิโลเมตร และเข้าไปในตัวเขื่อนอีกประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเขื่อนบางลางสร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ทิวเขาสันกาลาคีรี สันปันน้ำระหว่างไทยกับมาเลเซียในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ด้วยฝีไม้ลายมือมนุษย์ทำให้พื้นที่บริเวณเหนือเขื่อน กลายสภาพเป็นทะเลสาปน้ำจืดกลางหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีจากพันธุ์พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดและภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวเรียงรายสลับซับซ้อนโอบล้อมอยู่ ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ มีอาคารบ้านพักตากอากาศ ห้องจัดประชุม ร้านอาหาร สนามเทนนิส สนามเปตอง สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล แพล่องชมทัศนียภาพ ไว้บริการให้ความสะดวกแก่ผู้มาเยือน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะเหมาะต่อการท่องเที่ยวแล้วเขื่อนบางลางยังคงคุณสมบัติของเขื่อนเอนกประสงค์ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกในภาคใต้ไว้ได้เช่นเดิมคือ ช่วยในการป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้าและการประมง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม,ติดต่อบ้านพักโทรฯ 0-7329-9237-8, 0-7329-7099 ล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาปเหนือเขื่อน โทรฯ 0-7328-1063-66 ต่อ 2291)

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
ยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินตามรอยพระบาทชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีอาหารการกินที่หลากหลายทั้ง ไทย จีน มุสลิม ผู้คนรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดเป็นเพียงภาพลวงตา อีกไม่นานก็จะหายไป เพราะเขาเองก็เบื่อเต็มทนแล้วเพราะตั้งแต่วันแรกที่หลงผิดชีวิตยังหาความสุขไม่ได้ จะขอกลับมาเป็นคนดีของสังคมเร็วๆนี้

อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ

อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์