Monday, April 28, 2008

การเก็บรังนกแอ่นบ้าน (Harvesting of Bird Nest)

อุปกรณ์สำหรับเก็บรังนกแอ่นบ้าน:

นกแอ่นเป็นนกที่เกิดมามีคุณค่ามีราคาตามพันธุศาสตร์ มีความรู้สึกไวต่อการคุกคาม และสิ่งรบกวนทั้งหลาย ดังนั้นการเก็บรังนกแอ่นจึงควรรู้ว่าเมื่อไรจึงควรเก็บและเก็บอย่างไร

นกแอ่นผสมพันธุ์และวางไข่ทุกๆ 4 เดือนโดยเฉลี่ย ดังนั้นการผลิตรังนกแอ่นจึงต้องรอเวลาไม่ได้เร็วอย่างที่เราคิด ช่วงระยะเวลาของการผสมพันธุ์และเลี้ยงลูกใช้เวลานาน รังนกแอ่นจึงมีราคาสูง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการผสมพันธุ์คือช่วงฤดูฝน นกแอ่นจะออกหาอาหารไม่ไกลจากรัง อาหารจะสมบูรณ์กว่าช่วงฤดูแล้ง บ้านนกแอ่นที่ปกติเคยเก็บรังนกแอ่นได้เดือนละ 3 กิโลกรัม อาจเก็บรังนกแอ่นได้ 4 กิโลกรัม ในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่านกแอ่น 1 คู่ ทำรัง 2 รัง แต่เป็นเพราะว่าบ้านนกแอ่นได้คู่นกแอ่นใหม่ที่กำลังหาที่ทำรังจากบ้านนกแอ่นอื่นๆหรือจากถ้ำนกแอ่นที่พื้นที่ทำรังไม่มีให้ทำรังแล้ว ช่วงฤดูฝนบ้านนกแอ่นใหม่ๆจะได้นกแอ่นเพิ่มขึ้น

นกแอ่นจะทำรังในช่วงเวลากลางคืน รังนกแอ่นจะทำจากน้ำลายของนกแอ่น ที่มีส่วนผสมที่ซับซ้อนของ Glycol-Protien น้ำลายของนกแอ่นจะเหนียวและสามารถแห้งได้เร็วเมื่อสัมผัสอากาศ นกแอ่นใช้เวลา 30-40 วัน ในการทำรัง คู่นกแอ่นที่มีประสบการณ์จะทำรังเป็นรูปถ้วยครึ่งซีกสวยงาม แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของไข่ ลูกนกแอ่นที่จะโต และพ่อแม่นกแอ่น

หลังจากคู่นกแอ่นทำรังเสร็จ อีกประมาณ 1 อาทิตย์หรือกว่านั้น แม่นกแอ่นจะเริ่มวางไข่ฟองแรก และอีก 2-3 วัน จะวางไข่ฟองที่ 2 จากนั้นจะกกไข่ ใช้เวลาประมาณ 26-28 วัน เมื่อลูกนกแอ่นออกจากไข่ พ่อแม่นกแอ่นจะช่วยกันป้อนอาหารให้ลูกนกแอ่นวันละ 2 เวลา ใช้เวลา 49-52 วัน จนลูกนกแอ่นโตและบินได้ ลูกนกแอ่นจะหัดบินอยู่ภายในบ้านนกแอ่นประมาณ 5-7 วัน จากนั้นจะบินออกจากบ้านนกแอ่นออกหาอาหารร่วมกับฝูงนกแอ่น

ลูกนกแอ่นที่อายุครบ 8 เดือน จะเริ่มจับคู่และเริ่มทำรัง บ้านนกแอ่นใหม่อยากได้ลูกนกแอ่นคู่ใหม่เช่นนี้มากๆ จึงนิยมเก็บรังนกแอ่นเมื่อลูกนกแอ่นบินได้ และบินออกจากรังไปหาอาหารร่วมกับฝูงนกแอ่น

รังนกแอ่นที่ลูกนกแอ่นโตและบินออกจากรังได้แล้ว ถ้ายังไม่เก็บรัง เมื่อถึงเวลาผสมพันธุ์ นกแอ่นคู่เดิมจะใช้รังเดิมซ้ำอีกครั้ง โดยซ่อมรังเดิมให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น ดังนั้นการเก็บรังนกแอ่นที่ลูกนกแอ่นโตและบินออกจากรังแล้ว เป็นวิธีการที่ดีที่สุด อย่าให้เกิดการใช้รังเดิมซ้ำอีก ท่านเป็นเจ้าของบ้านนกแอ่นต้องเรียนรู้ว่าช่วงเวลาใดควรเก็บรังนกแอ่น การเข้าบ้านนกแอ่นบ่อยๆในช่วงฤดูผสมพันธุ์ทำให้นกแอ่นรู้สึกถูกรบกวน ไม่เข้าก็ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดต่างๆได้ ควรเข้าแต่ให้น้อยครั้งที่สุด ใช้การคำนวณนับวันเวลาช่วย ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป

ถ้าหากท่านเก็บรังนกแอ่นช้า และคู่นกแอ่นเดิมกำลังจะวางไข่ในรังเดิม แต่รังเพิ่งถูกเก็บไปก่อนหน้าเพียง 1 วัน ท่านคิดว่านกแอ่นคู่เดิมจะรอได้ไหม? คำตอบคือ ไม่รอ! นกแอ่นคู่เดิมจะไม่รอถ้ารังถูกเก็บ แต่จะเริ่มทำรังใหม่ตรงที่เดิมโดยไม่หยุดพัก ใช้เวลาเกือบ 24 ชั่วโมง รังนกแอ่นที่รีบทำจะไม่สวย รังจะบางไม่แข็งแรงมากนัก ทำรังใหม่เพียงเพื่อให้สามารถวางไข่ได้เท่านั้น และหลังจากวางไข่แล้ว จะทำรังต่อและเสริมให้รังแข็งแรง ใหญ่ขึ้น

วิธีเก็บรังนกแอ่นทำอย่างไร?

การเก็บรังนกแอ่นบ้านจะใช้เครื่องมือเพียงชนิดเดียว คือ "เหล็กแซะ" ชนิดที่ช่างทาสีใช้แซะรอยสีเก่าที่ร่อนให้หลุดออกมาจากผนัง หรือแบบที่แม่ค้าขนมโตเกียวใช้ก็ได้ เลือกชนิดที่ปลอดสนิม มีด้ามจับถนัด ฝนให้คมขึ้นหน่อย เพื่อเวลาแซะรังนกแอ่นจะได้ไม่แตก การแซะรังนกแอ่น ให้กดเหล็กแซะแนบกับพื้นไม้ที่รังนกแอ่นเกาะอยู่ ออกแรงนิดเดียว ความคมของเหล็กแซะจะทำให้รังนกแอ่นหลุดออกมาอย่างสมบูรณ์

สิ่งสำคัญที่ควรจดจำไว้และต้องระมัดระวังคือ ก่อนเก็บรังนกแอ่น ให้ตรวจสอบดูอีกทีว่าในรังนกแอ่นมีไข่หรือลูกนกแอ่นที่เพิ่งออกจากไข่หลงเหลืออยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งอาจจะมีคู่นกแอ่นบางคู่ที่อาจจะทำรังและผสมพันธุ์ช้ากว่าคู่อื่นๆก็มี การดูอาจจะลำบากเพราะไข่หรือลูกนกแอ่นตัวแดงๆจะยังเล็กมาก ให้ใช้กระจกแผ่นเล็กๆสอดเข้าไปเพื่อส่องดู ถ้าไม่มีไข่หรือลูกนกแอ่นก็เก็บได้ ถ้ามีไข่หรือลูกนกแอ่นก็ไม่ต้องเก็บ การเข้าบ้านนกแอ่นเพื่อเก็บรังนกแอ่นควรใช้ไฟฉายชนิดที่คาดบนศีรษะได้ เพราะมือสองข้างจะทำงานได้สะดวก

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Sunday, April 27, 2008

ภาพเขียนจีนพร้อมปลามีชีวิต

ผมขอแทรกอะไรที่ไม่ใช่เรื่องนกแอ่นบ้าง แต่ต้องน่าสนใจเท่านั้นจึงจะนำมาเสนอต่อท่าน หากท่านคิดอะไรไม่ออก เบื่อๆอยากๆ จินตนาการไม่รู้หายไปไหน ลอง Click เข้าชม Website นี้ดู ไม่แน่บางทีท่านอาจจะคิดออก หายเบื่อหายอยาก เกิดจินตนาการที่ดีๆขึ้นมาได้ โปรด Click: http://zqbbs.netsh.com/usr/12/12_191_17.swf แล้วลาก Mouse เล่น

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Saturday, April 26, 2008

ราคารังนกแอ่นในตลาดปัจจุบัน (Bird Nest's Price)

รังนกแอ่นที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด

ราคาของรังนกแอ่นขึ้นอยู่กับหลักของอุปสงค์และอุปทาน (Demand and Supply) อะไรคือสาเหตุที่ทำให้รังนกแอ่นมีราคาสูง? มีคำถามที่ถามกันบ่อยๆในกลุ่มผู้เลี้ยงและทำบ้านนกแอ่นว่า ราคารังนกแอ่นจะยังคงสูงหรือราคาดีอีกนานเท่าไร? 5 ปี 10 ปี หรือ 15 ปี

จากการสำรวจตลาดโลกในระยะเวลาที่ผ่านมา ปี 1970 ผู้คนทั่วโลกสนใจเกี่ยวกัยยานยนต์ อุตสาหกรรมยานยนต์เจริญเติบโตมาก ผู้คนอยากมีรถยนต์ส่วนตัว ขยันทำงานเพื่ออยากมีรถยนต์ไว้ใช้ ปี 1980 ผู้คนทั่วโลกสนใจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจต่างๆ ปี 1990 อินเตอร์เน็ตเป็นตัวจักรสำคัญที่เปลี่ยนแปลงการจัดระเบียบองค์กรทั่วโลก ปี 2000 หลังจากผู้คนทั่วโลกมุ่งเน้นแต่เรื่องธุรกิจและฐานะทางสังคมมาพอสมควร ต่างเริ่มตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ เรื่องสุขภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนทั่วโลกจะให้ความสำคัญอีกต่อไปในอนาตด

ผู้คนทั่วโลกจะห่วงและดูแลสุขภาพเป็นอันดับแรก สุขภาพที่ดี ร่างกายที่แข็งแรงย่อมส่งผลต่อหน้าที่การงานและครอบครัว อยากมีผิวพรรณสดใสดูอ่อนกว่าวัย มีภูมิต้านทานโรคและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย จึงต้องเสาะหาอาหารที่ดีบำรุงร่างกาย และรังนกแอ่นจะเป็นอาหารเสริมที่ดีที่สุดที่ทุกคนจะเรียกหาตลอดไป ความต้องการบริโภครังนกแอ่นจะยิ่งเพิ่มขึ้น ธุรกิจบ้านนกแอ่นมีอนาตดที่ดียิ่ง ราคารังนกแอ่นจะยังคงสูงและราคาดีตลอดไป

ราคารังนกแอ่นที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด:-

- ปี 1980 ราคา 3,500 บาท/1 กิโลกรัม
- ปี 1990 ราคา 18,000 บาท - 25,000 บาท/1 กิโลกรัม
- ปี 2000 ราคา 35,000 บาท - 48,000 บาท/1 กิโลกรัม
- ปี 2006 ราคา 65,000 บาท - 69,000 บาท/1 กิโลกรัม
- ปี 2007 - ปัจจุบัน ราคา ประมาณ 70,000 บาท/1 กิโลกรัม

จะเห็นว่าราคารังนกแอ่นยังคงสูงและราคาดี ถ้าหากท่านทำบ้านนกแอ่นประสบความสำเร็จ มีรังนกแอ่นให้เก็บมากมายหลายสิบกิโลกรัม แต่ถูกผู้รับซื้อรังนกแอ่นกดราคาต่ำมากโดยอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ รังเล็ก รังไม่สะอาด ฯลฯ โปรดใจเย็นๆอย่าตื่นเต้น ท่านมีของดีที่ตลาดต้องการ เรื่องอะไรจะไปขายถูกๆได้อย่างไร คุยกับผู้ซื้อรังนกแอ่นด้วยเหตุผลและใจแข็ง ไม่ได้ราคาที่เหมาะสมไม่ขาย ส่วนผลจะเป็นอย่างไร กลุ่มผู้เลี้ยงและทำบ้านนกแอ่นน่าจะรวมกลุ่มกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

ภาพสวยๆจากบทสัมภาษณ์พระเจ้า (The Interview With God)

อยากให้ท่านได้ Click เข้าชม Web นี้ http://getinspirednow.com/cgi-bin/refer/see.cgi?0422fbfgpjWX มีภาพสวยๆถ่ายจาก Colorado และ Hawaii โดยช่างภาพชื่อดัง J.D. Writer มีดนตรีประกอบพร้อมตัวหนังสือบทสัมภาษณ์พระเจ้า เนื้อหากินใจมาก ท่านอาจได้ข้อคิดที่ดีๆเกี่ยวกับชีวิตจากการชม Clip นี้

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Friday, April 25, 2008

ส่วนประกอบของซุปรังนกแอ่นและคุณประโยชน์


ซุปรังนกแอ่นถูกยกย่องให้เป็น "คาเวียร์แห่งตะวันออก" "Caviar of the East" ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? อะไรคือส่วนที่ดีที่ร่างกายได้รับ? รายงานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า รังนกแอ่นมีโปรตีนสูง มี Acid Amino, Glycol-Protein และมีส่วนประกอบทางเคมีดังต่อไปนี้:-
- Nitrogen
- Complex Carbohydrate
- Sulphur
- phosphorus
- Asernate
- Vitamin B1
- Amino Acids - Amide, Humin, Arginine, Cystine, Histidine and Lysine
- Protein
- Iron
- Culcium
ส่วนประกอบต่างๆเหล่านี้มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยสร้าง ป้องกัน และ บำรุงร่างกายดังต่อไปนี้:-
- ช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหาร
- ลดการเสื่อม ชะลอความแก่
- ช่วยในการย่อยอาหาร
- บำรุงปอด ช่วยการหายใจ
- ช่วยให้เจริญอาหาร
- ป้องกันโรคหวัด
- ลดอาการเจ็บคอ
- รักษาโรคไอ โรคหอบ
- ลดการผมร่วง
- บำรุงผิว ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย
- บำรุงสมอง
- ป้องกันโรคข้อต่างๆ
- ช่วยทำความสะอาดโลหิต
- ฯลฯ
รังนกแอ่นจึงนับว่าเป็น "King" ของอาหารบำรุงสุขภาพทั้งหลาย โสม และ สมุนไพรอื่นๆยังเป็นรอง
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

รังนกจากบ้านนกแอ่น VS. รังนกจากถ้ำบนเกาะต่างๆ อะไรคือความแตกต่าง? (House Nests VS. Cave Nests)

รังนกแอ่นถ้ำ
รังนกแอ่นบ้าน

รังนกแอ่นที่เก็บจากบ้านนกแอ่นและรังนกแอ่นที่เก็บจากถ้ำบนเกาะต่างๆจะมีความแตกต่างอันเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมที่นกแอ่นทำรังอยู่ ลักษณะของรังนกแอ่นทั้งสองแหล่งจะมีความเหมือนและความแตกต่าง มีความจำเป็นที่จะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อเสนอสู่สาธารณะให้เข้าใจอย่างถูกต้อง

ตารางข้างบนนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของรังนกแอ่นทั้งสองแหล่ง รังนกแอ่นที่เก็บจากบ้านนกแอ่นจะทำรังโดยนกแอ่นสายพันธุ์ Aerodramus Fuciphagus (Edible-Nest Swiftlets) เป็นสายพันธุ์เดียวที่ผู้ทำบ้านนกแอ่นทั้งหลายต้องการ ส่วนรังนกแอ่นที่เก็บจากถ้ำบนเกาะต่างๆจะทำรังโดยนกแอ่น 3 สายพันธุ์ คือ Aerodramus Fuciphagus, Aerodramus Maximus และ Collocalia Esculent

รังนกแอ่นที่เก็บจากบ้านนกแอ่นจะย่อยและละลายได้ง่ายเนื่องจากรังนกแอ่นบ้านสามารถเก็บเกี่ยวได้ทันทีหลังจากที่ลูกนกแอ่นโตและบินได้แล้ว รังนกแอ่นบ้านจึงใหม่และสด สะอาดและสิ่งเปื้อนเปรอะน้อย ส่วนรังนกถ้ำจะย่อยและละลายได้ยากกว่าเนื่องจากการเก็บเกี่ยวบางครั้งต้องรอเวลาให้ลมมรสุมสงบจึงจะออกทะเลไปเก็บรังนกแอ่นได้ ทำให้ช่วงเวลาที่รอรังนกแอ่นถ้ำเกิดการออกซิไดซ์ ได้รับไอน้ำเค็มเป็นเวลานานจึงมีธาตุโซเดียมสูง และมีการซึมผ่านของแร่ธาตุจากผนังถ้ำสู่รังนกแอ่นในช่วงฤดูฝน จึงมีส่วนประกอบของแร่ธาตุสูงซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่มีความดันโลหิตสูง โรคนิ่วในไต ไตวาย หรือ โรคThalassemia ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้รับประทานรังนกแอ่นบ้านซึ่งราคาถูกกว่า ใหม่และสดกว่า การต้มรังนกแอ่นบ้านก็ใช้เวลาน้อยกว่า

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Sunday, April 20, 2008

การเพิ่มของประชากรนกแอ่น(Swiftlet Population Increment)


จากตารางข้างบนนี้แสดงถึงปริมาณการเพิ่มขึ้นของประชากรนกแอ่นในระยะเวลา 5 ปี จากปีแรกที่นกแอ่นเข้าอยู่อาศัยจำนวน 20 ตัว เท่ากับจำนวนนกแอ่น 10 คู่ นกแอ่น 1 คู่ ผสมพันธุ์ 3 ครั้ง/ปี วางไข่ครั้งละ 2 ฟอง เท่ากับผลิตลูกนกแอ่น 6 ตัว/ปี คิดเป็นเปอร์เซ็น/ร้อยละ เท่ากับ 300% คิดเป็นตัวคูณ เท่ากับ 3x ดังนั้นถ้าท่านลองคำนวณตามตารางข้างบนตั้งแต่ปีที่ 1 จนถึงปีที่ 5 จะได้จำนวนนกแอ่นถึง 20,480 ตัว

การทำบ้านนกแอ่นจะยากตอนเรียกให้นกแอ่นเข้าอยู่อาศัย ถ้าองค์ประกอบทุกอย่างในการทำบ้านนกแอ่นสมบูรณ์ครบถ้วนตามหลักวิธีการ และนกแอ่นยอมรับบ้านนกแอ่นใหม่เป็นที่อยู่อาศัย ท่านสามารถที่จะประสบความสำเร็จ ได้นกแอ่นเพิ่มขึ้นทุกๆปี จำนวนรังนกแอ่นก็เพิ่มขึ้น รายได้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทุกๆปี

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Thursday, April 17, 2008

การระบายอากาศในบ้านนกแอ่น(Ventilation System)

อากาศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสัตว์โลกทุกชนิด การทำบ้านนกแอ่นเพื่อให้นกแอ่นเข้าอยู่อาศัย ต้องคำนึงถึงระบบระบายอากาศเป็นอย่างยิ่ง การปิดช่องทุกช่องที่แสงสว่างสามารถเข้าได้ เพื่อให้บ้านนกแอ่นมีความมืดเสมือนในถ้ำ ทำให้อากาศไม่สามารถเข้าสู่ภายในบ้านนกแอ่นได้มากนัก ทำให้รู้สึกอึดอัด การทำระบบระบายอากาศจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้นทำบ้านนกแอ่น

การทำระบบระบายอากาศในบ้านนกแอ่นส่วนใหญ่จะใช้ท่อ PVC ขนาด 4 นิ้ว และใช้ข้องอ 4 นิ้ว ประกอบเป็นรูปตัว L ดังภาพข้างบน ผังในกำแพงรอบๆบ้านนกแอ่น มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกระแสลมธรรมชาติรอบๆบ้านนกแอ่นที่ตั้งอยู่ จะทำแบบ 1 แถว หรือ 2 แถว ก็ให้พิจารณาดู ถ้าทำช่องระบายน้อยเกินไปจะเพิ่มทีหลังย่อมยุ่งยาก แต่ถ้าช่องมากเกินไปทำให้ความชื้นในบ้านนกแอ่นลดลง เราสามารถใช้กระดาษอุดในท่อหรือใช้ฝาปิดท่อได้ ด้านนอกของท่อระบายอากาศที่อยู่นอกบ้านนกแอ่น ให้ติดตาข่ายกันแมลงสาป ตุ๊กแก และสัตว์รบกวนอื่นๆ

ระบบระบายอากาศแบบนี้เป็นเพียงตัวอย่างให้ท่านได้เห็นภาพภายในบ้านนกแอ่น ไม่ใช่สูตรสำเร็จ ท่านสามารถใช้วิธีอื่นใดก็ได้ที่ทำให้อากาศระบายได้และประหยัดงบประมาณของท่าน

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

วิธีสังเกตุว่านกแอ่นเข้าอยู่อาศัยแล้ว(Quantify The Number Of Swiftlet)



นับตั้งแต่วินาทีแรกที่บ้านนกแอ่นใหม่ของท่านสร้างเสร็จ เสียงเรียกนกถูกเปิดเพื่อเรียกนกตั้งแต่เช้าจรดเย็น เวลาแห่งการรอคอยที่จะเห็นนกแอ่นบินเข้าสู่ภายในของบ้านนกแอ่นใหม่ย่อมเร้าใจยิ่ง นกแอ่นบินมาเป็นฝูงใหญ่ บินวนเวียนอยู่ใกล้ลำโพงเสียงเรียกนอกที่ติดตั้งอยู่ตรงช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นใหม่ สักครู่บินตามเสียงเรียกเข้าสู่ภายในบ้าน บินวนสำรวจภายในอย่างละเอียด อุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม ที่เกาะเพื่อทำรังมีมากพอที่จะสร้างกลุ่มใหม่ได้ ไม่มีสัญญาณของศัตรูที่จะมารบกวน เงื่อนไขทุกอย่างยอมรับได้ สำรวจเสร็จแล้วก็บินออกไป พรุ่งนี้และวันต่อไปจะมาสำรวจใหม่อีกหลายๆครั้งจนแน่ใจที่จะรับบ้านนกแอ่นใหม่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยแน่นอนแล้ว จึงเข้าอยู่อาศัย จะบินออกหากินอาหารในตอนเช้าและกลับสู่บ้านนกแอ่นใหม่ในตอนใกล้ค่ำ ถ้าเป็นเช่นนี้จริงความสำเร็จของท่านกำลังจะมา คำว่าเศรษฐีกำลังจะมาเยือนท่านแล้ว

วิธีสังเกตุและหาจำนวนนกแอ่นที่เข้าอยู่อาศัย:-

1. สังเกตุดูขี้นกแอ่นว่ามีหรือไม่ ถ้ามีเป็นแบบกระจายไปทั่ว ยังไม่ใช่สัญญาณว่านกแอ่นเข้าอยู่อาศัยแล้ว ต้องเป็นแบบขี้เริ่มกองเป็นกลุ่มดังภาพถ่ายข้างบน แสดงว่านกแอ่นได้เกาะประจำตรงจุดนั้น และมักจะใกล้ลำโพงเสียงเรียกใน ได้เลือกจุดนั้นเป็นที่จะทำรังต่อไป กลุ่มกองขี้แบบนี้ทำให้ท่านสามารถจะหาจำนวนนกแอ่นที่เข้าอยู่อาศัยได้
2. นับจำนวนตอนนกแอ่นบินออกจากช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นใหม่ในตอนเช้า ต้องช่วงเช้าจริงๆ (5.30 น. - 6.30 น.) ท่านต้องลุกจากเตียงมาเฝ้าดูอย่างน้อย 3 วัน จึงจะมั่นใจว่านกแอ่นเข้าอยู่อาศัยแล้ว
3. ติดตั้ง CCTV แบบ Night Vision ในบ้านนกแอ่น ทำให้ท่านสามารถมองเห็นนกแอ่นบินเข้า-ออกได้ เป็นอะไรที่สนุกในระยะแรกๆ แต่จะน่าเบื่อเมื่อต้องมานั่งเพ่งหน้าจอ TV นานๆ
4. โดยการสำรวจไม้ตีรัง สังเกตุตรงที่เห็นขี้นกแอ่นเริ่มกองเป็นกลุ่มบนพื้น ถ้าขี้นกแอ่นกองตรงไหน ให้มองดูที่ไม้ตีรังตรงจุดที่มีขี้นกแอ่นกองอยู่ ถ้าบนไม้ตีรังเริ่มมองเห็นคิ้วน้ำลายขาวๆของนกแอ่น ก็แสดงว่านกแอ่นเริ่มทำรังแล้ว และยอมรับบ้านนกแอ่นใหม่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยต่อไป
เสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์


Wednesday, April 16, 2008

การใช้น้ำยาช่วยปรับกลิ่นดึงดูดนกแอ่นเข้าอยู่บ้านใหม่เร็วขึ้น(Special Bird Attractant Liquid)

ได้มีความพยายามที่จะดึงดูดให้นกแอ่นเข้าอยู่อาศัยในบ้านนกแอ่นใหม่เร็วขึ้น มีการทดลองนำกลิ่นต่างๆที่คิดว่านกแอ่นคุ้นเคยมาทาในบ้านนกแอ่นใหม่ เช่น น้ำมันปลาผสมไข่เป็ด น้ำผึ้ง นำไม้ตีรังไปแช่น้ำทะเลเพื่อให้ได้กลิ่นไอทะเล ฯลฯ บ้านนกแอ่นที่สร้างเสร็จใหม่ๆจะมีกลิ่นซีเมนท์ กลิ่นสี กลิ่นเชื่อมโลหะ การที่จะดับกลิ่นเหล่านี้ให้หมดไปได้อย่างรวดเร็วจึงจำเป็นต้องใช้น้ำยาปรับกลิ่น เป็นสูตรเฉพาะของแต่ละผู้เชี่ยวชาญแต่ละบริษัทที่ผลิตออกมา เมืองไทยยังไม่มีน้ำยาตัวนี้ ตอนนี้ถ้าจะใช้ต้องสั่งซื้อจากประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ถามว่ามีความจำเป็นต้องใช้ตามเขาหรือไม่ อันนี้ผมอยากให้ท่านคิดเป็นการบ้านก่อนนอน คิดอะไรที่เกี่ยวกับนกแอ่นมันท้าทายเพราะหาคำตอบไม่ได้ง่ายๆอย่างที่คิด และหาแหล่งอ้างอิงยากจริงๆ

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Tuesday, April 15, 2008

ประวัติและที่มาของบ้านนกแอ่น(History Of Swiftlet Farming)

การค้ารังนกแอ่นเริ่มต้นในประเทศจีนสมัยราชวงศ์ถัง (T'ang Dynasty, A.D. 618-907) จักรพรรดิได้รับรังนกแอ่นเพื่อเป็นอาหารอันโอชะบำรุงสุขภาพ ประเทศจีนเป็นผู้บริโภคซุปรังนกแอ่นกลุ่มแรก ซุปรังนกแอ่นถูกเรียกขานว่าเป็น "คาเวียร์แห่งตะวันออก" "Caviar of the East" ซุปรังนกแอ่นเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินของจีนนานนับ 1,000 ปี

ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเซียเป็นผลทำให้เพิ่มความต้องการบริโภครังนกแอ่นมากขึ้น ยังไม่มีเสน่ห์ของซุปชนิดอื่นมาแทนที่ซุปรังนกแอ่นได้ ดังนั้นความต้องการบริโภครังนกแอ่นจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในช่วงปี 1930 รังนกแอ่นธรรมชาติถูกเก็บเกี่ยวอย่างรวดเร็ว จนทำให้ประชากรนกแอ่นลดลงอย่างมาก ปี 1950 ยิ่งลดจำนวนลงอีก ปี 1990 ยิ่งเหลือน้อยลง หลังจากนั้นผู้ได้รับสัมปทานการเก็บรังนกแอ่นเริ่มตระหนัก จึงได้ลดการเก็บเกี่ยวลงเพื่อให้นกแอ่นได้มีช่วงเวลาขยายพันธุ์บ้าง

ประเทศจีนเป็นผู้ซื้อรังนกแอ่นมากที่สุดจากประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย และ ประเทศมาเลเซีย แต่ปริมาณของอุปทานไม่สามารถสนองตอบต่อปริมาณอุปสงค์ได้แม้จะใช้เวลาอีก 10 ปีก็ตาม

การทำบ้านนกแอ่นจึงเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะเพิ่มปริมาณประชากรนกแอ่น และ เพิ่มผลผลิตรังนกแอ่นเพื่อตอบสนองความต้องการบริโภครังนกแอ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย เป็นการอนุรักษ์พันธุ์นกแอ่นไม่ให้สูญพันธุ์ ผู้ทำบ้านนกแอ่นจะเก็บรังนกแอ่นเมื่อลูกนกแอ่นโตและบินได้แล้วเท่านั้น

การทำบ้านนกแอ่นที่ออกแบบอย่างถูกวิธี ตรงตามความต้องการและความชื่นชอบของนกแอ่น เช่น เสียงเรียกนก (Swiftlet Chirp) เครื่องทำความชื้น (Humidifier) ไม้ตีรัง (Nesting Plank) ย่อมประสบความสำเร็จได้ การทำบ้านนกแอ่นจึงถือเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง และเป็นธุรกิจที่มีอนาคตยิ่ง ความเสี่ยงเป็นธรรมชาติของทุกธุรกิจ ดังนั้นท่านจึงต้องเรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้วยตัวท่านเอง

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Thursday, April 10, 2008

การอบรมและสัมมนา(Seminar And Workshop)

เป็นที่ยอมรับกันแล้วในปัจจุบันถึงวิธีการเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และ ประสบการณ์ใหม่ๆ โดยการจัดอบรมและสัมมนา การเชิญวิทยากรที่มีความรู้ มีประสบการณ์ในสาขานั้นๆมาบรรยายจะทำให้ผู้เข้ารับการอบรมและสัมมนาได้รับความรู้ได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาสั้นกว่าการไปค้นคว้าหาความรู้เอง สามารถซักถามเพิ่มเติมได้ทันทีเมื่อมีข้อสงสัย

การมีเครื่องมือที่ทันสมัยช่วยให้การอบรมและสัมมนามีความน่าสนใจ การนำเสนอกระชับได้เนื้อหา มีภาพประกอบ เข้าเยี่ยมชมสถานที่จริงตามเนื้อหาของการอบรมและสัมมนา ใช้เวลาสั้น ได้ผลสำเร็จสูงเพราะสามารถประเมินผลได้ทันที่หลังจากอบรมและสัมมนาเสร็จ

ผมเคยเข้าอบรมเรื่องการทำบ้านนกแอ่นและได้รับรู้รูปแบบของการอบรม มีหลายอย่างที่น่าจะทำได้ดีกว่า เนื้อหามากกว่า ให้รายละเอียดมากกว่า หากมีโอกาสได้จัดการอบรมและสัมมนาให้ทุกท่านที่สนใจ คิดว่าน่าจะได้อะไรที่ครบถ้วนสมบูรณ์ หลังจากอบรมและสัมมนาเสร็จท่านน่าจะเริ่มทำบ้านนกแอ่นได้เอง สามารถกำหนดรูปแบบและสั่งให้ช่างทำตามที่ท่านต้องการได้

หากท่านสามารถรวบรวมเพื่อนๆที่สนใจการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่นได้ 10 ท่าน และอยากให้ผมจัดอบรมให้ โปรดโทรศัพท์หรือเมล์มานัดหมายได้ หรืออยากได้รูปแบบอื่นๆก็คุยกันได้

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Tuesday, April 8, 2008

ช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นควรอยู่ตรงไหน?(Location Of Entrance Hole)








การกำหนดช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นหากยึดตามหลักของการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ ก็จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นอยู่ทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก เพราะแสงอาทิตย์จะส่องเข้าสู่บ้านนกแอ่นได้ รูปแบบของช่องทางเข้า-ออกแบบหน้าต่างจึงควรอยู่ทางทิศเหนือและทิศใต้ แต่นี่ก็ไม่ใช่กฎเกณฑ์ข้อบังคับหากทิศเหนือและทิศใต้มีสิ่งกีดขวางทางเข้า-ออก เช่น มีตึกสูงบังอยู่ ด้านที่เป็นช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นควรมีพื้นที่ว่าง ไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อให้นกแอ่นสามารถบินเล่นได้
จากภาพถ่ายทั้ง 3 ภาพข้างบนจะเห็นว่า ได้มีการต่อเติมอาคารขึ้นไปบนพื้นชั้นบนสุดของอาคารเพื่อทำเป็นช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่น เรียกว่าช่องทางเข้า-ออกแบบ "กรงสุนัข" ช่องทางเข้า-ออกแบบนี้จะลดปริมาณแสงสว่างที่จะเข้าสู่บ้านนกแอ่นได้มากกว่าแบบหน้าต่าง และได้พื้นที่ตีไม้รังเพิ่มขึ้น แต่เวลานกแอ่นบินเข้าจะต้องบินมุดลงช่องทางเข้าบนพื้นอีกทีหนึ่ง ถามว่าแบบไหนดีที่สุดสำหรับบ้านนกแอ่น อันนี้ตอบยากครับ เพราะทั้ง 2 แบบต่างก็มีตัวอย่างของบ้านนกแอ่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเป็นตัวอย่างให้เห็นอยู่ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับรูปทรงของอาคารที่จะดัดแปลงเป็นบ้านนกแอ่น หากเป็นบ้านนกแอ่นที่ออกแบบเพื่อสร้างขึ้นมาใหม่จะง่ายต่อการกำหนดช่องทางเข้า-ออก
ขนาดของช่องทางเข้า-ออกสำหรับบ้านนกแอ่นใหม่ควรมีขนาดที่เหมาะสมเพื่อให้ง่ายต่อการบินเข้า-ออก ขนาดที่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านและหนังสือหลายเล่มแนะนำคือ 80 x 40 เซนติเมตร ส่วนของผมที่ใช้กับบ้านนกแอ่นของผมเอง ขนาด 100 x 80 เซนติเมตร นกแอ่นสามารถบินเข้าได้พร้อมกันหลายสิบตัว แต่ที่ต้องจำไว้คือ ช่องทางเข้า-ออกยิ่งใหญ่แสงสว่างยิ่งเข้าสู่ภายในบ้านนกแอ่นยิ่งมาก อุณหภูมิและความชื้นก็จะคุมยากขึ้น
ช่องทางเข้า-ออกควรจะอยู่ซ้าย ขวา หรือ ตรงกลาง ควรอยู่สูงขนาดไหน พื้นที่วงบินของนกแอ่นจะเป็นตัวกำหนดว่าช่องทางเข้า-ออกของบ้านนกแอ่นควรจะอยู่ซ้าย ขวา หรือ ตรงกลาง วงบินของนกแอ่นจะกว้างประมาณ 6 - 8 ฟุต ถ้าบ้านนกแอ่นของท่านกว้างประมาณ 4 - 5 เมตร ช่องทางเข้า-ออกไม่ควรอยู่ตรงกลาง ควรอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวา ขอบของช่องทางเข้า-ออกด้านที่ใกล้ผนังด้านในควรห่าง 50 เซนติเมตร โดยปกติเมื่อนกแอ่นบินอยู่ในบ้านนกแอ่นจะบินห่างผนังประมาณ 50 เซนติเมตร ดังนั้นเมื่อช่องทางเข้า-ออกอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวา โดยที่ขอบของช่องทางเข้า-ออกด้านที่ใกล้ผนังด้านในห่าง 50 เซนติเมตร จึงทำให้นกแอ่นบินเข้าสู่บ้านนกแอ่นได้สะดวก และสามารถทำวงบินได้เป็นธรรมชาติ ทำให้นกแอ่นรู้สึกสบาย ส่วนความสูงของช่องทางเข้า-ออก ขอบด้านบนของช่องทางเข้า-ออก ควรอยู่ที่ระดับห่างจากไม้ตีรัง 50 เซนติเมตร
หากท่านอ่านแล้วยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนไม่เข้าใจ ลองร่างแบบบ้านที่ท่านจะดัดแปลงทำเป็นบ้านนกแอ่น สแกนแบบบ้านแล้วเมล์มาให้ผมดู ผมจะกำหนดช่องทางเข้า-ออกให้พร้อมอธิบายเหตุผลว่าทำไมจึงต้องอยู่ตรงจุดนั้นๆ
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์




การเพิ่มความชื้นในบ้านนกแอ่น(3)(How To Increase Humidity 3)











การเพิ่มความชื้นในบ้านนกแอ่นโดยใช้เครื่องทำความชื้น(Humidifier)นั้นสดวกที่สุด ปัญหาต่างๆจะน้อย รูปแบบและลักษณะของเครื่องทำความชื้นก็แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสดวกง่ายดายในการติดตั้ง การดูแลรักษา การประหยัดกินไฟน้อย และการหาซื้อง่ายในท้องตลาดทั่วไป มีบริการหลังการขายที่ดี
ความชื้นมีผลต่อการขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณนกแอ่น มีผลต่อคุณภาพของรังนกแอ่น รังนกแอ่นจะสะอาดมีขนน้อยไม่กรอบ ได้น้ำหนัก ราคาดี นี่คือเหตุผลว่าทำไมความชื้นจึงมีความสำคัญในการทำบ้านนกแอ่น และบ้านนกแอ่นที่สำเร็จสูงสุดคือบ้านนกแอ่นที่สามารถควบคุมความชื้นได้ดีที่สุดนั่นเอง ความชื้นที่นกแอ่นชื่นชอบที่สุดคือ 85%
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์





Saturday, April 5, 2008

การเพิ่มความชื้นในบ้านนกแอ่น(2)(How To Increase Humidity 2)

ความชื้นยังเป็นเรื่องที่ต้องพูดถึงอีกหลายๆครั้ง เพราะรูปแบบของการเพิ่มความชื้นนั้นมีหลายวิธี ผมอยากจะเสนอรูปแบบที่ประหยัดแต่ได้ผล จากภาพข้างบนจะเห็นว่าเป็นการนำสระน้ำพลาสติกที่ลูกๆเลิกใช้แล้วมาดัดแปลงเพื่อใช้ประโยชน์ในการเพิ่มความชื้นในบ้านกแอ่น นำเก้าอี้พลาสติกเจาะช่องบนส่วนที่นั่งเพื่อวางพัดลมเป่าลงน้ำ พัดลมเป่าลงน้ำทำให้เกิดความชื้น นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวคิดที่จะให้ท่านได้นำไปเป็นแนวทางในการหาวิธีเพิ่มความชื้นในบ้านนกแอ่น จะใช้วัสดุอุปการณ์อะไรก็แล้วแต่ท่านจะรังสรรค์ขึ้นมาขอให้สามารถเพิ่มความชื้นได้ก็ถือว่าสมความมุ่งหมายแล้ว

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Friday, April 4, 2008

หากท่านคิดว่าชีวิตนี้ยุ่งยากนักโปรดชมชีวิตของเธอ

บางครั้งบางช่วงของชีวิตท่านอาจรู้สึกเหนื่อยหน่าย ท้อแท้ หดหู่ เหงาหงอย แต่ถ้าท่านได้ชมวิดีโอเรื่องนี้ บางทีท่านอาจจะลุกขึ้นมาต่อสู้อย่างอดทนและเข้มแข็งอีกครั้ง โปรดเข้าชมเพื่อต่อสู้แบบเธอ
http://www.fluvium.org/textos/dolor/dol129.htm

ขอชื่นชมในตัวเธออย่างสูง

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Thursday, April 3, 2008

การเพิ่มความชื้นในบ้านนกแอ่น(1)(How To Increase Humidity 1)

ความชื้นเป็นสิ่งสำคัญในความสำเร็จของบ้านนกแอ่น นกแอ่นชื่นชอบความชื้น 85% น้ำเป็นตัวช่วยในเรื่องความชื้น การทำรางน้ำรอบๆกำแพงด้านใน(รูปข้างบน)เป็นการเพิ่มความชื้นได้ระดับหนึ่ง ได้ความชื้นระดับใดสามารถใช้เครื่องมือวัดความชื้นวัดดูได้ ถ้าความชื้นยังไม่ถึง 85% ก็ใช้เครื่องทำความชื้น(Humidifier)ช่วยเพิ่ม การทำรางน้ำควรใช้วิธีการผูกเหล็กเทปูนหล่อ ใส่กันซึมให้เต็มสูตรเพื่อกันซึม ฉาบผิวและขัดมันด้านในของรางน้ำด้วย มีช่องระบายน้ำออกพร้อมวาล์วปิด-เปิดเพื่อทำความสะอาดรางน้ำ และติดตั้งก๊อกน้ำสำหรับเติมน้ำในรางน้ำ

นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์

Wednesday, April 2, 2008

แบบร่างบ้านนกแอ่นจากเว็บเพื่อนบ้านมาเลเซีย(Sketch Of Swiftlet House)





























แบบร่างทั้งหมดนี้ได้มาจากเว็บเพื่อนบ้านมาเลเซีย เป็นแบบร่างตัวอย่างของบ้านนกแอ่นที่ทำแล้วได้ผลสำเร็จ ดูแบบแล้วนำไปดัดแปลงแก้ไขได้ตามใจชอบ ไม่สงวนลิขสิทธิ์โดยเจ้าของแบบร่าง
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์







บ้านนกแอ่นในมาเลเซีย(Swiftlet House In Malaysia)

















ภาพถ่ายทั้ง 6 ภาพข้างบนนี้คือภาพบ้านกแอ่นในประเทศมาเลเซีย แต่ละหลังแต่ละแห่งจะไม่เหมือนกัน รูปทรงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ ไม่มีหน้าต่าง มีแต่ช่องระบายอากาศ และช่องทางเข้า-ออกของนกแอ่น บ้านลักษณะนี้การลงทุนจะสูง บ้านจะใหญ่พื้นที่ตีไม้รังจะมาก นกแอ่นสามารถขยายพันธุ์ได้มาก ได้ปริมาณรังนกแอ่นมาก
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์




Tuesday, April 1, 2008

พืชที่ให้แมลงแก่นกแอ่น















นกแอ่นเป็นนกที่หากินในอากาศ แมลงจึงเป็นอาหารหลักของนกแอ่น และต้องเป็นแมลงที่บินอยู่ในอากาศเท่านั้นที่นกแอ่นสามารถกินได้ ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่ชุ่มน้ำ จึงเป็นแหล่งอาหารของนกแอ่น เป็นที่กังวลว่าหากพื้นที่ป่าถูกบุกลุกทำลาย พื้นที่ชุ่มน้ำถูกทำลาย แหล่งอาหารของนกแอ่นย่อมได้รับผลกระทบด้วย
จากการศึกษาวิจัยพบว่าทำไมนกแอ่นจึงมีมากในพื้นที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ผลของการศึกษาคือ พื้นที่ของอำเภอปากพนังอยู่ในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลาบางส่วน ก็มีลักษณะใกล้เคียงกัน จึงมีนกแอ่นอยู่เป็นจำนวนมาก พื้นที่ชุ่มน้ำจึงเป็นพื้นที่เพราะพันธุ์แมลง อาหารหลักของนกแอ่น
หากพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายจริงๆในอนาตด ระบบนิเวศน์ศูนย์เสียความสมดุล การเพราะพันธุ์แมลงโดยธรรมชาติลดลง การปลูกพืชบางชนิดที่สามารถแพร่พันธุ์แมลงให้เป็นแหล่งอาหารแก่นกแอ่นก็อาจมีความจำเป็น ต้นมะเดื่อ ต้นกฐิน คือตัวอย่างของพืชที่ให้แมลงแก่นกแอ่น ในอินโดนีเซียนิยมปลูกต้นกฐินบริเวณพื้นที่ว่างรอบๆบ้านนกแอ่น(รูปที่ 3, 4 และ 5) เพื่อเป็นแหล่งอาหารใกล้บ้านนกแอ่น
นำเสนอโดย เทพชัย อริยะพันธุ์





แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
ยะลา หรือ ยะลอ แปลว่า "แห" เดิมเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองตอนใต้ ขึ้นอยู่กับมณฑลปัตตานี ต่อมาได้ประกาศเป็นจังหวัด ตามระเบียบบริหารการปกครองใหม่เมื่อปี 2476 ปัจจุบันจังหวัดยะลามีพื้นที่ 4,521.077 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 376 หมู่บ้าน มีอำเภอเมือง อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาตั้งอยู่ตอนใต้สุดของประเทศไทย ดั่งคำขวัญที่ว่า "ยะลา : ใต้สุดสยามเมืองงามชายแดน" อยู่ห่างจากกรุงเทพฯโดยทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตร หรือโดยทางรถยนต์ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 1,440 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีผังเมืองสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

หลักเมืองยะลา

หลักเมืองยะลา
หลักเมืองยะลาสร้างขึ้นจากแนวความคิดของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาร่วมกับบรรดาข้าราชการซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมจังหวัดยะลาเป็นอาณาเขตหนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี เพิ่งแยกออกเป็นเมืองหนึ่งต่างหากในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2335) ที่ตั้งตัวเมืองยะลาเดิมมิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน แต่ได้โยกย้ายมาแล้วถึง 4 ครั้งด้วยกัน ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงให้ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 เวลา 10.30 น. ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางของเมืองยะลา ทั้งนี้เนื่องจากผังเมืองยะลาได้ออกแบบไว้เหมาะเจาะกันพอดีรอบๆวงเวียนหลักเมือง อันเป็นวงเวียนชั้นในสุดเป็นที่ทำการของส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด กองกำกับการตำรวจภูธร สำนักงานที่ดิน สำนักงานเกษตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่างๆของจังหวัดจะมารวมกันที่หลักเมือง

วัดคูหาภิมุข

วัดคูหาภิมุข
ถ้ำคูหาภิมุขตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง ไปตามเส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าวัดอีก 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ สร้างสมัยศรีวิชัยประมาณ 1,300 ปีเศษ ภายในมีถ้ำต่างๆเช่น ถ้ำมืด ถ้ำ ภปร. มีหินงอกหินย้อย และหยดน้ำไหลรินจากโขดหินสวยงามยิ่งนัก หยดเกร็ดเพชรระยิบระยับตา ซึ่งในปี 2539 ถ้ำคูหาภิมุขได้รับรางวัลการประกวดแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พระมหากัจจายนะ

พระมหากัจจายนะ
พระมหากัจจายนะ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2505 ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเมืองยะลา อยู่กลางแจ้งภายในวัด องค์ใหญ่สวยงาม หากหมั่นทำความดีเมื่อมาขอพรจากท่านมักจะประสบความสำเร็จ อยู่ห่างจากศาลากลางไปทางถนนสุขยางค์ทางออกมุ่งสู่อำเภอเบตงประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโรงเรียนตำรวจภูธร 9 (กองบัญชาการส่วนหน้า)

วัดพุทธาธิวาส

วัดพุทธาธิวาส
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ ณ วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขามีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์ มหาเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฏีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา

เขื่อนบางลาง

เขื่อนบางลาง
เขื่อนบางลางในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองยะลาสู่อำเภอเบตง บนเส้นทางหลวงสายยะลา-เบตง สามารถแวะชมทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนบางลางได้ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา 58 กิโลเมตร และเข้าไปในตัวเขื่อนอีกประมาณ 12.5 กิโลเมตร ตัวเขื่อนบางลางสร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ทิวเขาสันกาลาคีรี สันปันน้ำระหว่างไทยกับมาเลเซียในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ด้วยฝีไม้ลายมือมนุษย์ทำให้พื้นที่บริเวณเหนือเขื่อน กลายสภาพเป็นทะเลสาปน้ำจืดกลางหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีจากพันธุ์พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดและภูเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวเรียงรายสลับซับซ้อนโอบล้อมอยู่ ทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้ มีอาคารบ้านพักตากอากาศ ห้องจัดประชุม ร้านอาหาร สนามเทนนิส สนามเปตอง สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล แพล่องชมทัศนียภาพ ไว้บริการให้ความสะดวกแก่ผู้มาเยือน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะเหมาะต่อการท่องเที่ยวแล้วเขื่อนบางลางยังคงคุณสมบัติของเขื่อนเอนกประสงค์ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกในภาคใต้ไว้ได้เช่นเดิมคือ ช่วยในการป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้าและการประมง (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม,ติดต่อบ้านพักโทรฯ 0-7329-9237-8, 0-7329-7099 ล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาปเหนือเขื่อน โทรฯ 0-7328-1063-66 ต่อ 2291)

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา

วิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆเมืองยะลา
ยะลาเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดำเนินตามรอยพระบาทชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีอาหารการกินที่หลากหลายทั้ง ไทย จีน มุสลิม ผู้คนรักใคร่กลมเกลียว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดเป็นเพียงภาพลวงตา อีกไม่นานก็จะหายไป เพราะเขาเองก็เบื่อเต็มทนแล้วเพราะตั้งแต่วันแรกที่หลงผิดชีวิตยังหาความสุขไม่ได้ จะขอกลับมาเป็นคนดีของสังคมเร็วๆนี้

อานิสงส์และบุญกุศลใดๆ

อานิสงส์ใดๆที่เกิดขึ้นจากการได้มีโอกาสเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการเลี้ยงและทำบ้านนกแอ่น ขอมอบแด่ คุณพ่อสุนันท์-คุณแม่อำนวย อริยะพันธุ์ พี่กัญญา ศรีสวัสดิ์และครอบครัว พี่ดวงพร เพชรโชติและครอบครัว น้องนิชา สุตะเมืองและครอบครัว คุณอ้อย(ภรรยา) น้องหนึ่ง(ลูกชาย) น้องฟรังก์(ลูกสาว) น้องดิว(ลูกสะใภ้) น้องพีร์(หลานชาย) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้แก่ศิษย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอบุญกุศลแห่งวิทยาทานทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจงมีแด่ทุกท่านที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักและเกี่ยวข้อง ให้ประสพแต่ความสุข ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภานธนสารสมบัติทุกประการเทอญ เทพชัย อริยะพันธุ์